พยายามทำดีที่สุดแล้ว
เรื่องทั้งหมดมันยาวผมจะรวมเล่าที่ไปที่มาเป็นข้อๆนะครับ
1.คบหากับหญิงคนหนึ่งเช่าห้องใช้ชีวิตอยู่กินด้วยกัน
2.ต่อมาฝ่ายหญิงไปมีชายคนใหม่
3.ฝ่ายหญิงขนของย้ายไปอยู่กับชายคนใหม่
4.ผมติดต่อขอคืนดีและฝ่ายหญิงก็ให้ความหวังว่าจะกลับมาคืนดีแต่ขอเวลาก่อน
5.ผมส่งเสียเลี้ยงดูตลอดเวลาทุกๆเดือนแต่ละเดือนไม่น้อยกว่า 4000 บาท ทั้งที่ฝ่ายหญิงยังอยู่กับชายคนใหม่
6.ฝ่ายหญิงขอเงินซื้อรถยนต์โดยให้ความหวังว่าจะกลับมาทั้งที่ฝ่ายหญิงยังอยู่กับชายคนใหม่
7.ผมโอนเงินเข้าบัญชีฝ่ายหญิงเพื่อเตรียมจ่ายเป็นเงินดาวน์รถ 200,000 บาทและให้เป็นเงินสดไปอีกเกือบ 50000บาท เพราะเชื่อในความหวังที่ฝ่ายหญิงให้ไว้ว่าจะกลับมาคืนดีด้วย
8.ผมจ่ายเงินจองรถยนต์ให้ในนามฝ่ายหญิง อีก10000 บาทเพื่อจองรถยนต์ให้ฝ่ายหญิง
9.ต่อมาได้คำตอบจากฝ่ายหญิงว่าจะไม่กลับมาคืนดีและจะไม่เลิกรากับชายคนใหม่เพราะเลือกที่จะใช้ชีวิตกับชายคนใหม่แล้ว
10.ผมให้ฝ่ายหญิงคืนเงินในส่วนที่โอนไปให้เตรียมไว้ดาวน์รถ 200000 บาท
11.ฝ่ายหญิงโอนเงินคืนให้ 148000 บาท
12.ต่อมาผมโทรศัพท์ทวงถามว่าให้คืนจนครบ 200000 บาท
13.ฝ่ายหญิงให้ชายคนใหม่รับโทรศัพท์พร้อมทั้งแจ้งกับผมว่าจะไม่ยอมคืนให้
14.ผมทวงถามโดยตลอด
15.ฝ่ายหญิงบอกว่ายอมรับว่าเห็นแก่ตัวที่ทำไปเพราะอยากได้อยากมีและยอมรับว่าหลอกลวงผม
16.ฝ่ายหญิงติดต่อกับหัวหน้างานผมแจ้งว่าจะไม่ยอมคืนเงินส่วนที่ยังค้างอยู่ให้
ทั้งหมดนี้ผมติดใจในเรื่องเงินที่ผมเสียไปเพียงอย่างเดียว ส่วนในเรื่องชู้สาวผมไม่ติดใจอะไรเลย
ผมไม่เคยใช้ความรุนแรง ไม่ว่าจะทั้งกริยาหรือทางวาจา กับฝ่ายหญิงเลย ที่ผ่านมาผมจะใช้เพียงวิธีพูดคุยกันด้วยเหตุผลมาตลอด และผมก็ไม่รู้ที่อยู่ของคนทั้งสองด้วยว่าอยู่ที่ไหน ทุกครั้งที่จะได้คุยก็เมื่อเขาติดต่อมา การทวงเงินของผมก็ได้แต่ส่งจดหมายไปยังพ่อ-แม่ของเขาให้รับรู้เท่านั้น
ผมขอถามว่า
1.การกระทำของหญิงคนนั้นกับชายคนใหม่เข้าข่ายข้อหาร่วมกันต้มตุ๋นหลอกลวงหรือไม่
2.จะมีผลทางกฎหมายหรือไม่ และถ้ามีผลทางกฎหมายผมจะต้องทำอย่างไรบ้างให้ได้เงินนั้นคืนมาจนครบ
3.จะมีวิธีดำเนินการทางกฎหมายอย่างไรเพื่อให้ได้เงินคืนมาหรือไม่ครับ
ผมขอรบกวนช่วยตอบคำถามของผมด้วยนะครับ
เพราะผมไม่มีที่ปรึกษาปัญหาที่เกิดขึ้นกับผมตอนนี้ได้เลย
ผมไม่รู้จะไปปรึกษาใครที่ไหนแล้วจริงๆครับ
ขอบคุณครับ |