เรียน เอ แม่น้อง BT
อันที่จริงความผิดพลาดในชีวิตของคุณนั้นเกิดขึ้นจากทัศนคติที่ผิด ที่มีมาแต่โบราณสมัยที่ชายหญิงยังไม่ทัดเทียมกัน คือ นึกว่าเมื่อมีท้องแล้ว จะต้องหาพ่อให้ลูกให้ได้ เพื่อให้สังคมยอมรับ และเชื่อว่าการทำพิธีแต่งงานจะเป็นการแก้หน้าได้ ซึ่งน่าจะเป็นความเข้าใจที่เป็นการซ้ำเติมปัญหาให้กับตัวเองมากกว่าเป็นการแก้ไขปัญหา ด้วยเหตุที่เข้าใจเช่นนั้น คุณจึงพยายามขวนขวายจัดทำพิธีแต่งงาน ทั้ง ๆ ที่เริ่มรู้ถึงความไม่ปกติของครอบครัวฝ่ายชาย และความเป็นที่พึ่งไม่ได้ของตัวผู้ชาย แต่แม้กระนั้นคุณก็ยังพยายามให้เขาจดทะเบียนสมรสกับคุณจนได้ อันก่อให้เกิดความผูกพันทางกฎหมายขึ้น และบุตรที่เกิดมาแทนที่จะเป็นของคุณคนเดียว ฝ่ายชายก็เลยกลายมาเป็นพ่อ (ที่ไม่ได้รับผิดชอบอะไร) และมีอำนาจปกครองบุตรขึ้น ซึ่งแม้ในทางเป็นจริงเขาจะไม่ได้รับผิดชอบ หรือรู้ถึงความสำคัญอะไร แต่วันหนึ่งเขาก็อาจใจจุดตรงนี้มาทำให้คุณเดือดร้อนยิ่งขึ้นได้อีก อันที่จริงปัจจุบันนี้หญิงที่มีลูกโดยไม่มีสามีนั้น ดูเหมือนจะเป็นของธรรมดา เพราะมีคนที่อยู่กินด้วยกันโดยไม่ได้แต่งงานกันมีเป็นจำนวนมาก และแม้แต่แต่งงานจดทะเบียนสมรสกันแล้ว กฎหมายก็ยอมให้ใช้นางก็ได้ หรือใช้นางสาวก็ได้ จะใช้นามสกุลของตัวเองหรือของสามีก็ได้ การที่พลาดพลั้งจนตั้งครรภ์นั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่จะน่าอับอายอะไรนัก และถึงใครจะว่าอย่างไรคนเหล่านั้นก็มิได้มาช่วยอะไรให้ดีขึ้นหรือเลวลงไปอีก คำถามของคุณนั้น ตอบสั้น ๆ ได้ดังนี้
1. การกลับไปเอาเรื่องคนที่เคยข่มขืน ก็รังแต่จะทำให้เรื่องที่ไม่มีใครรู้ กลับฮือฮาขึ้นมาอีก ไม่เป็นประโยชน์ต่อตัวเองนัก และถ้าฟ้องจริง ๆ ก็ยากที่จะหาพยานหลักฐานได้
2. ถ้าหย่ากัน และคุณรวบรวมหลักฐานทั้งปวงแสดงให้ศาลเห็นได้ว่า ฝ่ายชายไม่ได้มีความรับผิดชอบอะไร แนวโน้มศาลก็อาจจะให้ลูกอยู่ในความดูแลของคุณ โดยเฉพาะหลักฐานที่ครอบครัวของเขาพยายามให้คุณทำแท้ง
3. ถ้ามันนานมาแล้ว ก็คงยากที่จะเอาเรื่องเขาอีก แต่หลักฐานที่เกี่ยวข้อง (หากมี) ก็ควรรวบรวมไว้เพื่อใช้ประโยชน์ในการฟ้องหย่า
4. ปล่อยให้เป็นหนี้ของเขาเองจะดีกว่ากระมัง เพราะไปทำบัตรเสริมเขา ก็จะกลายเป็นว่าหนี้นั้นนำมาใช้จ่ายร่วมกัน วันข้างหน้าหากยังหย่ากันไม่ได้ คุณทำมาหาได้ ก็จะต้องนำไปใช้หนี้ร่วมกัน
5. สินสมรสนั้นคือทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างสมรสกัน และใช้จ่ายด้วยกัน ถ้ายังไม่หย่าสินสมรสก็ไม่แยกจากกัน
6. ถ้าเขาแกล้งออกจากงานเพื่อให้คุณเดือดร้อน คุณก็คงเดือดร้อนจริง แต่อาจไปนำสืบเพื่อการหย่าได้
7. ในทางกฎหมายคุณมีสิทธิเต็มที่ แต่ในทางปฏิบัติก็ต้องระวังตัวไว้บ้าง เพราะเขาอาจทำร้ายเอาต่อหน้าคนได้
8. เขาไม่มีสิทธิไล่คุณออกจากบ้าน ถ้าเขาจะทำอย่างนั้นเขาก็เลิกเช่าเสียดีกว่า เพียงเท่านั้นคุณก็ไม่มีที่อยู่เอง
9.เมื่อมีคดีกัน พยานก็ต้องไปให้การที่ศาล
10. ถ้ามีหลักฐานว่าเขายกย่องหญิงอื่นเป็นภรรยา ก็เพียงพอที่จะใช้เป็นเหตุฟ้องหย่า
11. ถ้าต้องการหย่าจากเขา จะกลัวอะไรกับการที่เขาจะฟ้องหย่า
12. ถ้ายังไม่หย่ากัน ต่างฝ่ายต่างก็มีหน้าที่ต้องอุปการะกันและกัน
มีชัย ฤชุพันธุ์ 23 กุมภาพันธ์ 2552 |