กราบเรียนท่านอาจาร์ยมีชัย

  ดิฉันมีเรื่องกลุ้มใจมากที่สุดในตอนนี้เกี่ยวกับหนี้บัตรเครดิดซิ่งมันค้างมาเรื่อยก่อนหน้านี้ดิฉันยังพอมีเงินจ่ายขั้นต่ำ  แต่พอปีที่แล้วรายได้ลดลงมากจนไม่สามารถจ่ายได้ก็ได้เริ่มทำการประนอมหนี้กับธนาคารบางแห่งไป  และก็มีบางแห่งยังไม่ได้ทำ  ซื่งในขณะนี้รายได้ลดลงมากจนบางแห่งที่ทำการประนอมหนื้ก็เริ่มค้างแล้ว  ดิฉันเริ่มกังวลว่าในอนาคตจะทำเช่นไรต่อไป  ขอเรียนถามอาจาร์ยดังนี้นะคะคือ

  1.ดิฉันทำงานอยู่บริษัทที่เกี่ยวกับการเงิน  ควรที่จะหาเงินมาชำระต่อไป  ทั้งๆที่เศรษฐกิจไม่ดีเงินก็ได้น้อยลง  คิดว่าอนาคตยิ่งแย่  ถ้าดิฉันจะไม่จ่ายต่อไป  ทางธนาคารเจ้าของบัตรต้องตามทวงตลอด  ดิฉันไม่สามารถที่จะจ่ายได้อีกต่อไป อ้อหนี้ที่ติดบัตรอยู่นี้หลายใบรวมๆ  กับดอกเบี้ยแล้วก็เกิน1ล้านบาทซิ่งขณะทีทำการประนอมหนี้นั้นดิฉันคิดแต่จะยึดเวลาต่ออายุเท่านั้น   โดยที่ดอกเบี้ยกับค่าปรับก็มากขึ้นเรื่อยๆๆ  เท่าที่ผ่านมาชำระไปเงินต้นแทบไม่ได้ลดเลย  ดิฉันควรปฎิบัติเช่นไรต่อไป  ขอคำแนะนำด้วย

  2.ถ้าดิฉันยอมให้ธนาคารฟ้องร้องและดำเนินคดี  ก็คงต้องออกจากงาน  อยากทราบระยะเวลาของธนาคารว่าจะดำเนินการเป็นเวลานานเท่าไร  ดิฉันควรจะลาออกจากงานเพื่อรับเงินสำรองเลี้ยงชีพคืนก่อนดีหรือไม่  เพราะหากถูกฟ้องร้องดำเนินคดีก็คงต้องให้ออกจากงานแน่นอน เงินก้อนนี้อาจจะถูกยึคด้วยใช่หรือไม่คะ

  3.ดิฉันยังคงพยายามหาเงินมาชำระให้ตลอดแต่ปัจจุบันไม่มีทรัพสินใดๆ เลยนอกจากของใช้ที่อยู่ภายในบ้านคือเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นเช่น แอร์ ตู้เย็นเครื่องซักผ้าซื้งถ้าถูกฟ้องล้มละลายสิ่งเหล่าก็คงต้องไปด้วยใช่หรือไม่

   4.ในฐานะนี้ดิฉันอยู่ในสภาพที่ว่า  หนี้สินล้นพ้นตัวจะชำระหนี้ต่อดี  หรือเก็บเงินเดือนไว้รอให้เจ้าหนี้ฟ้องร้อง  แล้วไปเจรจากันในชี้นศาล  เพราะว่าหนี้บัตรมีหลายใบ  รวมกันก็เกินล้าน  จะถูกฟ้องร้องในลักษณะแต่ละรายใช่มั้ย  แล้วรวมกัน  หลายๆ  ใบจึงจะเป็นการถูกฟ้องล้มละลายใช่มั้ยคะ

  5.ในสภาพเช่นนี้ดิฉันหมดแรงสู้แล้วค่ะควรให้เขาฟ้องดีหรือไม่คะ

เรียน ผู้รอคอย

    วิธีคิดที่คุณถามมานั้น ก็ดูจะเข้าใจสถานภาพของตัวเองดี แต่คำถามที่ถามมานั้นไม่สามารถตอบได้ เพราะตอบไปก็จะกลายเป็นการขัดต่อจรรยาบรรณของผู้รู้กฎหมาย เอาเป็นว่าอะไรที่คิดว่าดีเป็นประโยชน์ก็ทำไปเถอะ เพราะคงไม่มีอะไรร้ายไปกว่านี้อีกแล้ว