เรียนถามคุณมีชัย
ดิฉันได้ไปซื้อบ้านจากหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ซึ่งก่อสร้างมาเป็นระยะเวลา 10 ปีแล้ว โดยได้จ่ายเงินดาวน์และรายเดือนไป 3 เดือน โดยขายในราคาตามสภาพซึ่งผู้ซื้อจะต้องซ่อมแซมเอง ต่อมาถึงได้รู้ว่าบริษัทหมู่บ้านแห่งนี้ได้หมดสัญญากับบริษัทบริหารสินทรัพย์ (บบส) ในการเป็นนายหน้าในการขายบ้านและที่ดิน (เป็นโครงการหนี้เสียและนำไปเข้ากับ บบส) และทรัพย์ของ บบส. ก็โอนเป็นของบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด บสก. ซึ่งดิฉันก็รอว่าบริษัทของหมู่บ้านแห่งนี้จะทำการต่อสัญญาหรือไม่ ซึ่งปรากฏว่าไม่ต่อสัญญา ดิฉันจึงต้องไปทำการซื้อกับ บสก. เอง โดยดิฉันไปขอเงินดาวและเงินรายเดือนที่จ่ายไปคืน ทีแรกคนที่เซ็นสัญญากับดิฉันจะไม่คืน ท้ายสุดคืนให้โดยทำบันทึกตกลงว่าคืนเงินแล้ว แต่**ได้ระบุว่าดิฉันจะไม่เอาสัญญาที่ทำกับเค้าไปฟ้องร้อง (เพราะว่าเค้าหมดอำนาจในการเซ็นสัญญาแล้วยังมาเซ็นกับดิฉันถือว่าเป็นการฉ้อโกง) ***และในสัญญาดิฉันก็ได้ระบุด้วยว่าดิฉันไม่ต้องชำระค่าใดๆ กับ..............อีก (เนื่องจากว่าดิฉันมารู้ที่หลังว่าหมู่บ้านจัดสรรแห่งนี้ ถนนในหมู่บ้านไม่ยอมยกให้เป็นทางสาธารณะประโยชน์)
ดิฉันทำสัญญาเมื่อกลางปี 49 และเข้าอยู่ในปีนั้น และทำการขอเงินคืนในต้นปี 2551 และไปซื้อกับ บสก. โดยดิฉันจะต้องซื้อบ้านในมูลค่าสูงกว่าบ้านที่ยังไม่ตกแต่ง เพราะ บสก. ประเมินราคาจากที่ตกแต่งแล้ว และในวันที่ 3 ก.พ. 52 ที่ผ่านมาดิฉันได้รับจดหมายจากสำนักงานทนายความแห่งหนึ่งใน กทม. ซึ่งรับมอบอำนาจหน้าที่จากบริษัทของหมู่บ้านแห่งนี้ เรียกค่าผ่านทาง (ถนนหมู่บ้านที่ยังไม่ยกให้เป็นทางสาธารณะประโยชน์) เป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท และให้ชำระภายใน 15 วันหลังจากที่ได้รับจดหมายดังกล่าว หากเพิกเฉยจะทำการปิดถนนไม่ให้ผ่าน เช่นนี้แล้วดิฉันจะต้องทำอย่างไรบ้าง เพราะดิฉันซื้อบ้านหลังนี้เพราะมีถนนเรียบร้อยเป็นหมู่บ้านจัดสรร มีบ้านหลังอื่นที่อยู่ก่อนหน้าดิฉันมาเป็นระยะเวลา 10 ปี และต้องจำยอมซื้อกับ บสก. ในราคาที่สูงกว่าหลังอื่นเพราะว่าได้ตกแต่งไปแล้ว เช่นนี้แล้วบริษัทสามารถเรียกร้องค่าผ่านทางดังกล่าวได้หรือไม่
ขอบคุณมากๆ ค่ะ