กราบเรียนอาจารย์มีชัยที่เคารพ
ผมมีคำถามนี้ในใจมานานแล้ว แต่เพิ่งเจอจริงๆ เลยอยากเรียนถามอาจารย์ครับ คำถามนี้อาจคล้ายคำถามที่ 032826 หมวดทั่วไปแต่ยังไม่ค่อยชัดเจนครับ
1. พ่ออายุมากแล้ว ทำมาค้าขายของที่บ้านไปวันๆ ระยะหลังมีโขมยเข้าบ้านที่เปิดเป็นร้านค้าบ่อยมาก 2-3 วันก็เข้ามาโขมยเบียร์ที่ขาย ครั้งละ 2-3 ลัง คอยแอบเฝ้าดูแต่ก็มักจะหลับไปก่อน เพราะพวกนี้จะเฃ้ามาดึก คงตี 2 ตึ 3 จีงได้คิดต่อเส้นวลวดกับสายไฟเพื่อช็อต (แต่ที่บ้านติดเซฟทีคัตอยู่ด้วย) คีนหนึ่งโขมย 2-3 คนก็มาอีกเนื่องจากย่ามใจว่าโขมยได้ทุกทีไป พวกโขมยปีนเข้าบ้าน จับถูกเส้นลวด ไฟจึงดับเนื่องจากเซฟทีคัต บ้านก็มืดลงทันที แต่พวกหัวโขมยก็ยังคงเดินหน้าปีนเข้ามาอีก เนื่องจากอาจเห็นว่ามีแค่ตายายแก่ๆ อยู่กัน 2 คน คุณพ่อจึงตะโกนถามว่าใคร แต่ไม่มีเสียงตอบ ได้ยินแต่เสียงว่าพวกโขมยยังอยู่ เนื่องจากบ้านในขณะนั้นมืดสนิท คุณพ่อจึงยิงปืนไป 1 นัด แบบเดาสุ่มตามต้นเสียงที่ได้ยิน แต่คิดว่าไม่โดนใคร ก็ตะโกนให้ออกมาจากมุมที่ซ่อนตัว แต่โขมยก็ไม่ออกมาและไม่ส่งเสียง คุณพ่อจึงยิงไปอีก 1 นัด คุณแม่ก็ได้ทำการเปิดไฟขึ้น โขมยจึงปรากฏกายออกมา 1 คน ที่เหลือวิ่งหนีไปหมด ปรากฏว่า กระสุนถูกที่บริเวณขาทั้ง 2 นัด แต่อาการไม่ได้สาหัส จากนั้นจึงแจ้งตำรวจเพื่อให้มาที่เกิดเหตุ ขณะนั้นก็มีคนตกใจเสียงปืนตื่นขึ้นมาดูมากมาย ขอเรียนปรึกษาอาจารย์ว่าในกรณีที่โจรหรือโขมยเข้าบ้านเพื่อมาโขมยของหรืออะไรก็แล้วแต่ในยามวิกาล ถ้าในกรณีที่เราไม่แน่ใจในความปลอดภัยดังเช่นกรณีนี้ (เนื่องจากโขมยไม่หนีเมื่อถูกตะโกนถาม แล้วเราก็ไม่แน่ใจว่าโจรหรือโขมยมีอาวุธหรือไม่) ในขณะที่มืดมิดเนื่องจากไฟดับ แล้วยิงปืนไปเพื่อให้กลัวแต่ก็ถูกหัวโขมยด้วย เราต้องรับผิดไหมครับ ถ้าต้องรับผิด เราต้องรอให้เราถูกยิงก่อนแล้วค่อยยิงตอบโต้หรือครับ (มันจะไม่ช้าไปหน่อยเหรอครับ) ขอความกรุณาอาจารย์ช่วยให้ความกระจ่างในกรณีเช่นนี้ด้วยนะครับ
กราบขอบพระคุณครับ
คุณสงสัย
บุคคลจะป้องกันตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่เป็นความผิดนั้น มีองค์ประกอบ
1. จำเป็นต้องป้องกันสิทธิของตนหรือของผู้อื่นให้พ้นภยันตราย
2. ภยันตรายนั้นเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย
3. ภยันตรายนั้นใกล้จะถึง
4. ได้กระทำไปพอสมควรแก่เหตุ
แต่ส่วนใหญ่ตำรวจก็มักจะฟ้องศาลไว้ก่อนเพื่อให้ศาลเป็นผู้วินิจฉัย คนที่ต้องป้องกันตัวเองส่วนใหญ่ จึงมักจะเดือดร้อนก่อนเสมอ สำหรับกรณีของคุณ ก็คงหลีกไม่พ้นที่อาจจะต้องเดือดร้อนก่อนเป็นเบื้องต้น แต่เมื่อไปศาลและนำสืบได้ความตามที่เล่ามา ก็อาจพ้นผิดได้
