ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    033339 ทำยังไงดีครับคนผิดในสายตาทุกคน28 มกราคม 2552

    คำถาม
    ทำยังไงดีครับ
    ผมมีปัญหาหนักอกมากครับ อยากให้เรื่องราวมันจบแต่ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร อาจารย์ครับคนที่เราอยู่ร่วมด้วยแล้วมีแต่ความทุกข์ทั้งกายใจ  เราต้องทนอยู่กับเค้าไปตลอดหรือไรครับ   ทำไมโลกมันไม่ยุติธรรมเลย  คืออย่างนี้นะครับ ผมแต่งงานจดทะเบียนสมรสมากว่า 10 ปี มีลูก 2 คน ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันผมกับภรรยาทะเลาะเบาะแว้งกันเสมอ ด้วยปัญหาหลายเรื่องที่ไม่เข้าใจกัน (ภรยยาผมไม่ค่อยสนใจงานบาน ไม่ดูแลผม และเล่นการพนัน แต่ปัจจุบันนี้ได้ยินว่าเลิกเล่นแล้ว) เคยคุยกันเรื่องหย่า แต่ก็ไม่ได้หย่ากันสักที ต่อมาเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ผมเจอคนที่ทำงานด้วยกัน ผมรู้สึกว่าเราเข้าใจกันดี ทำให้เราตกลงคบกัน ตอนนี้ผมอยากหย่ามาก แต่ภรรยาผม ไม่ยอม ผมมีข้อมูลให้เพื่อประกอบคำถามครับคือ
    1 ภรรยาผมรู้เรื่องผมมีคนอื่นมาประมาณ 2 ปีแล้ว และเคยมาขอให้ผมกลับไปหาเค้า แต่ผมไม่ไปและบอกว่าอยู่ด้วยกันไม่ได้ (ผมออกมาอยู่กับแฟนใหม่)
    2 ผมกลับบ้านเพื่อไปดูแลลูกบ้าง แต่ไม่เคยนอนค้าง ไม่เคยมีอะไรกับภรรยาอีกเลยมาประมาณ 2 ปีแล้ว
    3 ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ภรรยาผม ผม และแฟนผม ตกลงกันว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันแต่ขอให้ผมส่งเสียเงินให้ลูก ผมก็ปฏิบัติตามมาโดยตลอด โดยภรรยาอ้างว่าจะหย่าให้แต่ขอดูไปก่อน
    4 เดือน พ.ย. ปี 51 ผมไปตกลงหย่า แต่ภรรยาไม่ยอม
    5 ธค. ปี 51 ผมจึงไม่ยอมส่งเงินให้อีก ต่อมา มค. 52 ภรรยาผมเอาผู้ใหญ่ของเค้าไปหาผมด้วยที่ทำงานบอกให้ผมทำบันทึกข้อตกลงเกี่ยวกับการส่งค่าเลี้ยงดูบุตร ทั้ง 2 คน รายละเอียดบอกให้ผมส่งเสียเ งินแก่ลูก ซึ่งผมได้เซนต์ชื่อ พร้อมภรรยาและพยาน
    6 ภรรยาอยู่ที่บ้านของพ่อผม อยู่กัยพ่อและแม่ผมครับ ความสัมพันธ์กัยแม่ผมไม่ดีเท่าไร ผมเคยบอกพ่อแม่เรื่องหย่า แม่ยอมและเห็นด้วย แต่พ่อไม่ยอม ผมเข้าใจดีว่า เพราะพ่อผมรักหลานมากกลัวว่าหากหย่ากันภรรยาผมจะเอาหลานไปอยู่ด้วย

    สิ่งที่ผมอยากทราบคือ
    1 ผมสามารถนำบันทึกนั้นไปอ้างเป็นเอกสารในการจะหย่าได้ไหม เพราะว่าในบันทึกเป็นการแสดงว่าภรรยาผมอยากได้ค่าเลี้ยงดูบุตร แบบนี้อ้างได้หรือไม่ว่าเราแยกกันอยู่โดยภรรยารับรู้และยินยอมโดยพฤตินัย หากได้ผมต้องทำอย่างไรเพื่อที่จะให้เค้าหย่าให้
    2 ผมอยากทราบว่ามีทางไหนบ้างที่จะหย่าจากเค้าได้

    ตอบผมทีนะครับ เพราะว่าผมคงไม่มีความสุขหากชีวิตยังคาราคาซังแบบนี้ แฟนใหม่ผมเค้าดีกับผมมาก และผมก็คิดว่าผมคิดดีแล้ว กรุณาชี้ทางสว่างให้ผมด้วยนะครับ
    ขอบคุณล่วงหน้าครับ
    คำตอบ

    1.-2. การหย่านั้นมีได้ ๒ ทาง คือ หย่าด้วยความยินยอมของทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะหย่ากันเมื่อไรด้วยเหตุอะไรก็ได้ทั้งนั้น เพียงแต่ทั้งสองฝ่ายต้องยินยอมในการไปหย่า ส่วนอีกทางหนึ่ง คือ การฟ้องหย่าต่อศาล  ซึ่งในการฟ้องหย่านั้นจะฟ้องหย่าได้ก็ต่อเมื่อมีเหตุที่กฎหมายกำหนดไว้ แต่กรณีของคุณนั้น เนื่องจากคุณเป็นฝ่ายผิดคุณจึงไปฟ้องหย่าไม่ได้ แต่ภรรยาคุณถ้าเขาอยากจะฟ้องหย่า เขาก็ฟ้องได้   สำหรับการแยกกันอยู่นั้น ถ้าเป็นการแยกกันอยู่ด้วยความสมัครใจ หากแยกกันอยู่ครบ ๓ ปี ก็ฟ้องหย่าได้เช่นกัน

          อนึ่ง ที่คุณรู้สึกเป็นทุกข์ ก็เพราะคุณไปมีคนใหม่ และยังไม่สามารถหย่าจากภรรยาเก่าได้  ถ้าคุณไม่มีคนใหม่ ความทุกข์ก็คงไม่มีมากเท่าที่เป็นอยู่  นอกจากนั้น เมื่อไรคุณไปจดทะเบียนสมรสกับคนใหม่ สภาพที่คุณเคยประสบก็อาจจะกลับมาอีก เพราะที่คุณอยู่กับคนเก่าแล้วรู้สึกมีทุกข์ ก็เพราะเมื่ออยู่ด้วยกันแล้วก็จะพบสิ่งที่ไม่ถูกใจ  ส่วนกับคนใหม่นั้น เมื่อยังไม่ได้อยู่ด้วยกันอย่างถาวร (จดทะเบียนสมรส) สิ่งที่ไม่ถูกใจจึงยังไม่ปรากฏ เมื่อใดที่อยู่กัยเป็นหลักเป็นฐาน สิ่งที่ไม่ถูกใจในรูปแบบใหม่ก็จะค่อย ๆ เริ่มปรากฏขึ้น  และหากไปพบคนที่ถูกใจใหม่ สิ่งที่ไม่ถูกใจนั้นก็จะกลายเป็นความทุกข์ที่เริ่มจะทนไม่ได้ เป็นวังวนกันต่อไป 

     


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    28 มกราคม 2552