เรียน  ท่านอาจารย์มีชัย ที่เคารพ

   เมื่อประมาณเดือนตุลาปี51 ได้ทำการจองคอนโดที่ยังไม่ได้สร้างไว้และจ่ายเงินวันทำสัญญาไปแล้วประมาณแสนกว่าบาท และต้องผ่อนค่างวดต่อไปอีกประมาณเดือนละ สองหมื่นกว่าบาท  โดยต้องเริ่มจ่ายตั้งแต่ ต้นเดือน พ.ย. 51 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะครบเงินเดือน หลังจากนั้น จะต้องโอนเมื่อเขาสร้างเสร็จ แต่มาคิดว่า ณ.ตอนนี้ เศรษฐกิจแย่มาก หาเงินลำบาก เกรงว่าจะผ่อนดาวน์ไม่ไหว ขอถามอาจารย์ ดังนี้ค่ะ

 1.คิดว่าอยากเปลี่ยนใจ ยังม่ต้องการซื้อคอนโดที่ยังไม่สร้าง เพราะเหมือนเราเอาเงินไปให้เขาก่อน เหมือนซื้ออากาศธาตุ ยังไงไม่รู้ ส่วนจะขอคืนเงินจอง ที่ได้จ่ายไป ณ.วันที่ทำสัญญา จากเจ้าของโครงการได้หรือไม่ ?  แล้วถ้าได้ เขาจะหักกี่ %

  2. เนื่องจากในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ เราจึงไม่สามารถผ่อนค่างวดต่อไป ได้ ยังไม่อยากเป็นหนี้ตอนนี้ และประกอบกับ คอนโดของเขาก็ยังไม่ลงมือสร้างเลยแต่เขาโทรมาทวงค่างวดจากเราแล้ว  เราควรจะทำอย่างไร?

   3. ค่างวดที่เรายังไม่เคยจ่ายเลย ตั้งแต่เดือน พย.51 จนปัจจุบัน ประมาณ 3 งวด เป็นเงินกว่า 7หมื่นบาทนั้น  เขาจะฟ้องคิดดอกเบี้ย ย้อนหลังจากเราได้หรือไม่?

   4. แต่ถ้า ไม่สามารถบอกคืนเงินจองคอนโดนี้ได้  ทำอย่างไรถึงจะไม่ต้องซื้อคอนโดนี้คะ จะให้ทิ้งเงินจองก็เสียดาย จะขายดาวน์ก็ไม่มีใครซื้อต่อ ทำอย่างไรดีคะ ? เพราะยังไม่พร้อมที่จะเป็นหนี้ในเวลานี้เนื่องจากตอนตัดสินใจจองนั้นเห็นว่าทำเลดี อยู่ในแนวรถไฟฟ้าเท่านั้น แต่มาคิดดูแล้วราคามันแพงมาก (สามีบอกไม่สมควรซื้อตอนนี้)

     ขอให้ท่านอาจารย์ ช่วยแนะนำด้วยค่ะ 

   ขอขอบคุณในความกรุณาที่เสียสละเวลามาตอบคำถามผู้ด้อยความรู้

  จาก ....คนไม่เคยซื้อคอนโด.....

เรียน คนไม่เคยซื้อคอนโด

1. เมื่อทำสัญญาจองแล้ว เขาคงไม่คืนให้ นอกจากคุณโชคดีไปพบคนมีใจเมตตา เขาอาจคืนให้บ้าง 

2. ถ้าไม่แน่ใจว่าจะสามารถผ่อนส่งเขาได้ตลอดรอดฝั่ง ก็ควรตัดใจเสียแต่ตอนนี้ ส่วนเงินค่าจองที่จ่ายไปแล้วนั้น ก็ต้องถือว่าเป็นการฟาดเคราะห์ เพื่ออนาคตที่จะไม่ต้องล้มละลาย   คนส่วนใหญ่มักจะเสียดายเงินก้อนแรกที่ไปวางดาวน์ไว้ แล้วกัดฟันผ่อนส่งต่อไป พอถึงจุดหนึ่งก็ไม่มีปัญญาผ่อนต่อ ก็นึกเอาเองว่าไม่ชำระเสียอย่างใครจะทำอะไรได้  แต่ในความเป็นจริงนั้น สถาบันการเงินที่เขาให้กู้และเอาคอนโดเป็นประกันไว้นั้น เขาจะปล่อยไปเรื่อย ๆ เมื่อคุณไม่ชำระ เขาก็คิดดอกเบี้ยในอัตราผิดนัด ซึ่งจะอยู่ในอัตรามหาโหด ร้อยละ ๒๐ กว่า เพียงไม่ช้าไม่นาน เงินนั้นก็ท่วมราคาคอนโด  ถึงเวลานั้นเขาก็บังคับเอาคอนโดไปขาย ซึ่งจะขายในราคาถูก ๆ  ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะไม่เพียงพอที่จะชำระแม้แต่ดอกเบี้ย ส่วนเงินต้นนั้นก็ยังคงอยู่และผลิตดอกเบี้ยต่อไปในอัตรามหาโหด ไม่ช้า หนี้นั้นก็ท่วมท้นอีก แล้วเขาก็จะฟ้องล้มละลาย  รวมความว่าเพียงเสียดายเงินดาวน์ เลยไม่ได้อะไรมาเลยแถมยังล้มละลายอีกต่างหาก   ที่พูดมานี้เฉพาะกรณีที่มีรายได้ไม่แน่นอน  แต่ถ้ามีเงินเพียงพอที่จะซื้อได้อย่างแน่นอน ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

3.  ถ้าตัดสินใจได้ก็ควรรีบบอกเลิกสัญญากับเขาเสียโดยเร็ว ในการบอกเลิกสัญญานั้นให้ทำเป็นหนังสือมีสำเนาด้วย เมื่อนำหนังสือนั้นไปส่งเขาแล้วให้เขาลงลายมือชื่อรับหนังสือนั้นในสำเนา แล้วนำสำเนามาเก็บใส่กรอบไว้ให้ดีอย่าให้หายเป็นอันขาด