ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    033277 เรื่องการซื้อคอนโด แล้วรุ้สึกโดนเอาเปรียบค่ะชาลินี ทองกร26 มกราคม 2552

    คำถาม
    เรื่องการซื้อคอนโด แล้วรุ้สึกโดนเอาเปรียบค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณลุงมีชัย วันนี้หนูมีปัญหาเรื่องคอนโดที่ได้ทำสัญญาซื้อไว้ค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า .... คอนโดนี้เมื่อเดือนตุลา 51 หนูและคุณแม่ได้ไปดู เราได้ลงเงินจองสัญญาไว้ค่ะ โดยคอนโดมี2 อาคารตึกเอ ตึกบี ขณะนั้นตัวอาคารทั้งสองสร้างเสร็จมีคนเข้าอยู่ที่ตึกเอบ้างแล้วค่ะ โครงการขายเฉพาะตึกเอก่อนค่ะ ทางโครงการว่าอย่างนั้น (ไม่ได้เอะใจอะไรเลยค่ะ)ตึกทั้งสองนี้มีพื้นที่ตรงกลาง มีเสาโผล่อยู่ตรงพื้นที่ตรงกลางนั้นประมาณ 10ต้นค่ะ โดยทางโครงการบอกตอนเราเข้าไปดูว่า ตรงนี้จะเป็นพื้นที่สระว่ายน้ำ ยกสูง มีทางเชือ่มจากตัวตึกถึงสระว่ายน้ำที่ชั้น 3 ของอาคารเอ ส่วนอาคารบีนั้นไม่ได้บอกค่ะเพราะว่าทางโครงการยังไม่ได้ขาย ตอนที่เดินขึ้นตึกไปดูห้องตัวอย่างนั้น ก็ผ่านชั้นสามค่ะ มีช่องโล่งสี่เหลี่ยมขนาดประมาณประตูที่กว้างสัก 1.00เมตร ทางเซล์เองก็บอกว่า นี่เป็นประตูทางเชื่อมค่ะ สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆๆที่โครงการบอกก็มี ฟิตเนส ระบบรักษาความปลอดภัย เมื่อได้ดูครั้งนั้นในอีกสัปดาห์เราก็ได้ทำสัญญาซือ้ขายกันค่ะโดยมีการจ่ายเงินดังนี้ค่ะ ค่าจอง ณวันที่ไปดู 10,000 บาทค่ะ อีกสัปดาห์ทำสัญญาเสียอีก 50,000 บาทค่ะ และอีกหนึ่งเดือน เสียอีก 40,000บาท รวมแล้วเป็นเงิน 100,000บาทค่ะทางโครงการบอกับหนูเองในวันที่ทำสัญญาค่ะว่า หากต้องการเข้าอยู่เลย จะต้องจ่ายให้ครบ 100,000บาท ดังนั้นในวันที่หนูจ่ายเงิน 40,000บาทนั้นหนูจึงบอกทางโครงการว่าจะขอเข้าอยู่ในเดือนมกราคม 52 ซึ่งเรื่องมันมาแปร่งๆๆแปลกตอนที่ถามถึงการโอนค่ะ เพราะว่าในสัญญาซื้อขายนั้นระบุว่า จะโอนให้ได้ในเดือนธันวา ปี51หรือเมื่อโครงการแล้วเสร็จแต่พอถามโครงการ ทางโครงการก็ตอบว่า ที่ยังไม่สามารถโอนให้ได้เนื่องจาก กทม.ยังไม่ได้เซ็นจดทะเบียนอาคารชุดค่ะ และสระว่ายน้ำนั้นทางโครงการบอกว่าจะจัดการให้ต่อเมื่อ กทม.มาตรวจเรียบร้อยแล้ว ผ่านไปจนถึงออกเป็นโฉนด ถึงจะมีการสร้างสระว่ายน้ำ เพราะว่าสระว่ายน้ำนี้ผิดกฏหมายค่ะ ตอนี้จึงมีแต่เสาและจะเอาต้นไม้มาปิดช่วงที่ กทม.มาตรวจ 5555 (ขำจนร้องไห้ค่ะ) ตอนนี้สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ตึกเอที่โครงการขายให้นั้นต้องทำสัญญาซื้อห้องค่ะ และเสียค่าดาว์นเดือนละ 10,000บาท ส่วนตึกบี ทางโครงการเปิดให้เช่าค่ะ เสียเดือนละ 6,500บาทค่ะ    ดังนั้นเราลูกบ้านตึกเอก็ได้รวมตัวกันค่ะเมื่อวันอาทิตย์ ที่ 18 มกรา 52เข้าไปสอบถามกับผู้จัดการโครงการค่ะ ก่อนหน้านั้นเราได้ส่งหัวข้อรายละเอียดที่ต้องการให้แก้ไขไปแล้วเมื่อวันที่ 16(วันศุกร์ค่ะ)ประเด็นหลักมี 2เรื่องที่เชื่อมโยงกัน คือเรื่องการโอน และสระว่ายน้ำ (จากข้างต้นที่มีคนอยู่ที่ตึกเอมาก่อนนั้นทางโครงการสัญญาว่าจะโอนให้ได้ตั้งแต่เดือนมกราของปี51 ณ ปัจจุบันยังไม่ได้โอนเหมือนกันค่ะ)  ผู้จัดการโครงการตอบเราลูกบ้านดังนี้ค่ะ 1. การโอนตอนนี้อยู่ที่ขั้นตอนของ กทม.รอ กทม.เซ็น และยังต้องส่งไปที่กรมที่ดิน จนเสร็จสมบรูณ์เนี่ยมี 3ขั้นตอนค่ะ ตอนนี้ขั้นแรกยังไม่เรียบร้อยค่ะ 5555 (ขำจนร้องไห้จนต้องกลับมาขำอีกค่ะ) 2. เรื่องสระว่ายน้ำคิดว่าอาจไม่มี ปรับเปลี่ยนเป็นสวนต้นไม้แทน เพราะว่าทางโครงไม่ได้มีนโยบายแต่ต้นค่ะที่จะมีสระว่ายน้ำ แต่เป็นความต้องการของลูกค้าที่ผู้จัดการโครงการได้แจ้งบอกเจ้าของให้จัดทำ ดังนั้นผุ้จัดการขอโทษในความผิดค่ะ (แล้วยังไงค่ะ หนูเสียเงิน เสียใจ เครียด เพื่อจะได้ฟังคำตอบว่าโครงการไม่ผิด แต่ผิดที่ผู้จัดการ) แต่ราคาที่ไม่มีการปรับลดค่ะ เพราะว่าเป็นrequestของลูกค้า (แต่ตอนขายไม่ได้กล่าวอ้างนะค่ะว่าไม่มี บอกแน่นอน ชี้ตำแหน่งเสาให้ดูด้วยค่ะเพราะมีเสาให้เห็นเนี่ยแหละค่ะถึงเชื่อ) คุณลุงมีชัย ที่หนูเล่ามาทั้งเหมดเนี่ย น้ำตาจะไหลและหัวเราะในเวลาเดียวกันกับความไม่รับผิดชอบของเจ้าของโครงการ ผู้จัดการโครงการ ที่ลอยเหนือปัญหา โดยที่หนูเข้าใจว่าเค้าคงคิดว่าไม่มีหลักฐาน พยานอะไรที่กล่าวอ้างได้ว่าเค้าจะสร้างสระว่ายน้ำ ในโบชัวร์ก็ไม่ได้กล่าวถึง ในเวปไซด์ที่เคยมี ก็โดนลบออกไปแล้ว ช่วยตอบหนุหน่อยนะคะว่ามีกฏหมายได วิธีการใดใช้สู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นได้คะ สิงที่ต้องการหากไม่มีสระว่ายก็ต้องลดราคา หรือไม่ก็ต้องยอมคืนเงิน (ไม่รุ้ว่าต้องฝันไปหรือเปล่า) ตอนนี้ทางลูกบ้านก็เลยจะนัดรวมตัวกันวันที่ 1กพ. 52 อีกทีค่ะเพื่อให้เจ้าของโครงการมาคุย (ผู้จัดการโครงการก็ไม่ตอบรับด้วยนะค่ะวาเจ้าของจะมาคุยได้หรือเปล่า) หนูและลูกบ้านตึกเอคิดว่าน่าจะมีคนกลาง แต่ก็คิดไม่ออกว่าจะเอาใครมาเป็นคนกลางดี จริงๆเราแจ้งความว่าเค้าฉ้อโกงได้ไหมค่ะ แล้วเชิญตำรวจมานังเป็นคนกลางรับฟัง เพื่อให้ทั้งดูยุติธรรมทั้งสองฝ่าย อย่าถามถึง สคบ.เลยนะคะ เพราะเราเคยแจ้งไปแล้ว สคบ.บอกว่ายังไม่โอนเราก็ไม่มีสิทธิ์. หนูคิดวิธีที่จะต่อสู้กับคนที่ไม่รับผิดชอบ ไม่แคร์ แล้วก็หน้าด้านยอมรับผิดคิดว่าแค่ขอโทษแล้วจบไม่ไหวคะ เวลาคิดเรื่องนี้ทีไร พูดไปตัวก็สั่นด้วยความโกรธทุกที คุณลุงมีชัยช่วยหนุหน่อยนะคะ  ถ้าหนูได้รับคำตอบก่อนวันที่ 1กพ. หนูขอกราบขอพระคุณค่ะ ช่วยหนูด้วยนะคะ อย่างน้อยคิดว่าสงสารหนูที่เป็นพนักงานบริษัทตัวเล็กที่แค่ฝันอยากมีห้องเล็กที่เป็นส่วนตัวเท่านั้นเองค่ะ

     

    คำตอบ

    ควรรวมตัวกันไปร้องที่ สคบ. เพราะเขามีหน้าที่ดูแลเรื่องนี้ หากเจอเจ้าหน้าที่แล้วเขาตอบว่า ต้องโอนก่อนจึงจะเข้ามาช่วย ก็ขอทราบชื่อเสียงและตำแหน่งเขาไว้ ส่งให้รัฐมนตรีที่ดูแล สคบ. ให้จัดการให้ เพราะเป็นหน้าที่โดยตรงของเขาที่จะต้องดูแลผู้บริโภคอยู่แล้ว  หรือมิฉะนั้นก็รวมตัวกันหาทนายความฟ้องร้องต่อศาล เพราะในขณะนี้มีกฎหมายใหม่ที่เกี่ยวกับการฟ้องคดีผู้บริโภคออกใช้บังคับแล้ว


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    26 มกราคม 2552