ผู้กู้ร่วมนอกสัญญา
เรียนท่านอาจารย์มีชัย
เนื่องด้วยแม่(และน้าสาวของผม)ได้ไปทำการกู้ยืมเงินกับเจ้าหนี้เป็นจำนวนเงิน 110,000 บาทตั้งแต่ปี 2549 โดยการทำสัญญาเงินกู้โดยใช้โฉนดที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของแม่ผมเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่ในสัญญาได้ระบุว่าแม่ผมเป็นผู้กู้แต่เพียงผู้เดียว โดยไม่มีอัตราดอกเบี้ยระบุไว้ในสัญญา แต่ตกลงกันนอกสัญญา ว่าคิดดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อเดือน โดยมีกำหนดชำระ(ไถ่ถอน)สิ้นปี 2551 หลังจากกู้ยืมเงินแล้วได้แบ่งเงินที่ได้จากการกู้ดังนี้ แม่ผมได้ไป 50,000 บาท และน้าสาวได้ไป 60,000 บาท โดยที่น้าสาวได้ให้สัญญา(ปากเปล่า,สัญญาใจ)กับแม่ผมว่าจะเป็นผู้ชำระดอกเบี้ยให้ทุกเดือน และจะเป็นคนชำระหนี้สินทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียวทั้งต้นทั้งดอก ผมเพิ่งมาทราบเมื่อเร็ว ๆ นี้เพราะจะนำที่ดินผืนดังกล่าวไปสอบเขตกับกรมที่ดิน ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมที่ดินต้องใช้โฉนดฉบับบจริงในการดำเนินการ แต่ที่ดินไปติดจำนองเสียแล้ว เจ้าหนี้ไม่ยอมให้ยืมออกมาดำเนินการ
จากการสอบถามน้าสาว หลังจากกู้เงินแล้วได้มีการชำระดอกเบี้ยเพียงแค่ปีแรกเท่านั้น แล้วก็หยุดชำระ ผมกับแม่จึงได้ไปทวงถามสัญญาและความรับผิดชอบจากน้า ก็ได้คำตอบว่ากำลังหาเงินอยู่ โดยแสดงท่าทาง และคำตอบที่ปัดความรับผิดชอบไปวัน ๆ
สำหรับเจ้าหนี้นั้นแม่ได้ไปติดต่อเพราะสัญญาได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่เจ้าหนี้ก้ประนีประนอม บอกกับแม่ผมว่ายังไม่ยึดที่นาหรอก มีเมื่อไรก็มาไถ่คืนได้
จากเหตุการณ์ดังกล่าวผมขอเรียนถามท่านอาจารย์มีชัย ดังนี้
1.ให้น้าทำสัญญาย้อนหลังว่ากู้ยืมเงินไปจากแม่เป็นจำนวนเงิน 110,000 บวกกับดอกเบี้ยที่ค้างชำระกับเจ้าหนี้ที่นำที่ดินไปจำนองไว้ แล้วคิดที่เป็นต้นที่น้าสาวกู้ไปจากแม่ แล้วระบุอัตราดอกเบี้ยตามที่กฏหมายกำหนดไว้ในสัญญา ได้หรือไม่ เพื่อใช้เป็นหลักฐานอย่างเป็นรายลักษณ์อักษร แทนสัญญาใจ
2.กรณีที่น้าสาวไม่แสดงความรับผิดชอบใด ๆ เลยตามที่ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้กับแม่ผมแล้วนั้น ในทางกฏหมายจะสามารถเรียกร้องหรือเอาผิดกับน้าสาวผมได้หรือไม่ อย่างไร
ด้วยความนับถือ
ชาวนา
|