ดิฉันซื้อรถมือ 2 มาจากเต้นซ์แห่งหนึ่ง ผ่อนมาระยะหนึ่งรถเสียบ่อยมาก มีปัญหาเยอะมากก็เลยหยุดผ่อนประมาณ 4 เดือนและดิฉันได้โทรให้ไฟแนนซ์มารับรถคืนไป พนักงานของไฟแนนซ์ 2 คนได้มาตรวจสภาพรถและเซ็นรับรถไปในสภาพที่ขับได้ปกติ ต่อมาทางไฟแนนซ์ได้มีหนังสือแจ้งว่าได้ขายทอดตลาดรถคันดังกล่าวไปแล้วแต่เงินไม่พอชำระหนี้ ดิฉันจะต้องรับผิดชอบ ดิฉันอยากทราบว่าจะต้องรับผิดชอบหรือไม่ ถ้าขึ้นศาล ศาลจะตัดสินในรูปแบบใด
เข้าใจว่าในเวลาที่คุณไปซื้อรถนั้น การซื้อรถกับการกู้ยืมเงินเป็นคนละส่วนกัน กล่าวคือ เขาให้คุณกู้ยืมเงินแล้วชำระเงินนั้นให้กับคนขายรถ คุณจึงเป็นหนี้เงินกู้นั้น เมื่อคุณหยุดผ่อนส่ง (ซึ่งก็คือการผ่อนส่งหนี้ที่กู้ยืมมา) แล้วเอารถคืนให้เขาไป (โดยคุณเข้าใจเอาเองว่าคงจะหมดเรื่องกันไป) แต่แท้ที่จริงก็คือ การให้เขาเอารถไปขายเพื่อนำเงินที่ขายได้มาชำระหนี้ ดังนั้นเมื่อเขาขายได้ไม่พอชำระหนี้ ขาดเท่าไรคุณก็ต้องชำระเขาจนครบถ้วน ข้อสำคัญในระหว่างนี้ หนี้นั้นจะเป็นหนี้ที่ผิดนัด ซึ่งเขาจะคิดดอกเบี้ยในอัตราสูงมาก ดูเหมือนร้อยละ ๒๐ กว่า เพราะฉะนั้นผ่านไปอีกไม่นานเท่าไร เงินที่ค้างชำระก็จะกลับมาเท่าเดิมอีก และจะเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ เหตุทั้งนี้ เพราะเวลาที่คุณเซ็นต์ชื่อในหนังสือสัญญา คุณก็คงไม่ได้อ่านว่าข้อความในหนังสือสัญญานั้นมีอย่างไร