ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    033198 ดิฉันจะต้องรับผิดชอบเงินในส่วนที่เกินจากราคาขายทอดตลาดหรือไม่ผูบริโภคที่กำลังเดือดร้อน22 มกราคม 2552

    คำถาม
    ดิฉันจะต้องรับผิดชอบเงินในส่วนที่เกินจากราคาขายทอดตลาดหรือไม่

    ดิฉันซื้อรถมือ 2 มาจากเต้นซ์แห่งหนึ่ง ผ่อนมาระยะหนึ่งรถเสียบ่อยมาก มีปัญหาเยอะมากก็เลยหยุดผ่อนประมาณ 4 เดือนและดิฉันได้โทรให้ไฟแนนซ์มารับรถคืนไป พนักงานของไฟแนนซ์ 2 คนได้มาตรวจสภาพรถและเซ็นรับรถไปในสภาพที่ขับได้ปกติ ต่อมาทางไฟแนนซ์ได้มีหนังสือแจ้งว่าได้ขายทอดตลาดรถคันดังกล่าวไปแล้วแต่เงินไม่พอชำระหนี้ ดิฉันจะต้องรับผิดชอบ ดิฉันอยากทราบว่าจะต้องรับผิดชอบหรือไม่ ถ้าขึ้นศาล ศาลจะตัดสินในรูปแบบใด

    คำตอบ

    เข้าใจว่าในเวลาที่คุณไปซื้อรถนั้น การซื้อรถกับการกู้ยืมเงินเป็นคนละส่วนกัน  กล่าวคือ เขาให้คุณกู้ยืมเงินแล้วชำระเงินนั้นให้กับคนขายรถ คุณจึงเป็นหนี้เงินกู้นั้น เมื่อคุณหยุดผ่อนส่ง (ซึ่งก็คือการผ่อนส่งหนี้ที่กู้ยืมมา) แล้วเอารถคืนให้เขาไป (โดยคุณเข้าใจเอาเองว่าคงจะหมดเรื่องกันไป) แต่แท้ที่จริงก็คือ การให้เขาเอารถไปขายเพื่อนำเงินที่ขายได้มาชำระหนี้  ดังนั้นเมื่อเขาขายได้ไม่พอชำระหนี้ ขาดเท่าไรคุณก็ต้องชำระเขาจนครบถ้วน ข้อสำคัญในระหว่างนี้ หนี้นั้นจะเป็นหนี้ที่ผิดนัด ซึ่งเขาจะคิดดอกเบี้ยในอัตราสูงมาก ดูเหมือนร้อยละ ๒๐ กว่า เพราะฉะนั้นผ่านไปอีกไม่นานเท่าไร เงินที่ค้างชำระก็จะกลับมาเท่าเดิมอีก และจะเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ   เหตุทั้งนี้ เพราะเวลาที่คุณเซ็นต์ชื่อในหนังสือสัญญา คุณก็คงไม่ได้อ่านว่าข้อความในหนังสือสัญญานั้นมีอย่างไร


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    22 มกราคม 2552