ดิฉันแต่งงานมา 22ปีมีลูก2คน สามีอาศัยอยู่ในบ้านของดิฉัน แต่ว่าหลังแต่งงานได้ 3 ปีสมีถูกไล่ออกจากราชการเนื่องจากหนีราชการขาดงานเกิน 15 วัน ดิฉันอายพี่น้องตลอดจนเพื่อนร่วมงาน เพราะดิฉันก็เป็นข้าราชการเหมือนกัน หลังจากถูกไล่ออกจากงาน ก็ทำงานหลายอย่างแต่ก็หาเงินใช้จ่ายเฉพาะตัวเองไม่ค่อยรับผิดชอบครอบครัว ดิฉันต้องเอาที่ดินไปจำนอง กู้สหกรณ์ กู้แบงค์ และสถาบันการเงินอีก จนมีหนี้สินรวมกันแล้วมากกว่า 1 ล้าน สามีก็ไม่เคยหาเงินมาช่วยเหลือผ่อนหนี้สินเลย แถมอยู่ด้วยก็พูดจาก้าวร้าวกดขี่ดิฉันตลอดเวลา ดิฉัก็เลยขอหย่าขาดจากเขาๆก็บอกว่าพร้อมเมื่อไรจะหย่าให้ แต่ดิฉันเห็นแก่มนุษยธรรมก็บอกว่า ระหว่างที่ยังไม่หย่าก็ต่างคนต่างอยู่และอยู่ที่บ้านดิฉันไปก่อนเมื่อมีงานทำที่มั่นคงแล้วก็หย่ากันแล้วก็ออกจากบ้านดิฉันไป แต่เขาก็ไม่ทำตาที่ตกลงกัน ดิฉันก็เลยขอให้เขาไปหย่าให้ แต่คราวนี้เขาไม่ยอมหย่า อ้างว่าดิฉันคงมีผู้ชายคนใหม่แล้วจึงอยากจะหย่า แล้วเขากออกจากบ้านไป แต่ก่อนจะออกจากบ้านไปก็รับปากกับลูกว่าจะส่งเงินให้เดือนละสามพันบาท ออกไปจากบ้าน 7 เดือนแล้วก็ไม่เคยส่งมาเลย ดิฉันต้องรับภาระอย่างมาก ทั้งหนี้สิน ทั้งเงินประจำที่จะต้องให้ลูกดิฉันตัองการหย่ากับเขาให้จบๆกันไป ติดต่อเขาไปเขาก็ไม่ยอมรับสายและเปลี่ยนเบอร์มือถืออีก ดิฉันจึงตัดสินใจที่จะฟ้องหย่าให้เด็ดขาดไปซะที ดิฉันจึงรบกวนถามอาจารย์มีชัยดังนี้ค่ะ (ที่เล่ามาทั้งหมดดิฉันมีพยานทั้งเอสารและบุคคล)
1 ดิฉันสามารถฟ้องหย่าได้ไหมคะ และฟ้องหย่าในกรณีใดได้บ้าง
2 ถ้าฟ้องหย่าได้ ดิฉันสมารถมอบอำนาจให้ทนายความเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมดให้ได้ไหมค่ะ เละจะเสียค่าทนายเท่าไรค่ะ
3 และตัวดิฉันต้องไปขึ้นศาลด้วยหรือป่าว เพราะดิฉันไม่อยากไปขึ้นศาลเลย
1. การจะฟ้องหย่าได้ต้องมีเหตุตามที่กฎหมายระบุ กรณีของคุณอาจจะใกล้เคียงกับมาตรา ๑๕๑๖(๔) และ(๖) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ อันได้แก่ จงใจละทิ้งร้างอีกฝ่ายหนึ่งไปเกินหนึ่งปี กรณีหนึ่ง กับอีกกรณีหนึ่ง คือ สามีหรือภริยาไม่ให้ความช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่งตามสมควรหรือทำการเป็นปฏิปฏิปักษ์ต่อการที่เป็นสามีหรือภริยากันอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ ถ้าการกระทำนั้นถึงขนาดที่อีกฝ่ายหนึ่งเดือดร้อนเกินควรในเมื่อเอาสภาพ ฐานะ และความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
2-3 มอบอำนาจได้ แต่ถึงอย่างไรคุณก็ต้องไปศาล เพราะอย่างน้อยก็ต้องไปเป็นพยานให้ตัวเอง ส่วนค่าทนายความนั้นคงต้องติดต่อกับทนายความสอบถามเขาเอง
