อาจารย์ครับภรรยาผมมีชื่อยู่ในโฉนดแปลงใหญ่มีชื่อญาติ น้า อา หลายคน และ/แบ่งแยกออกเป็นโฉนดชื่อภรรยาผมแล้ว 100 ตรารางวา ตอนดีกันอยู่ แต่พอเวลาผ่านไป 8 ปี ( ตั้งแต่ปี 2543 ) ญาติ ๆ ได้บังคับให้ภรรยาผมไปทำงานเป็นลูกจ้าง เงินเดือน 7000 บาท เพื่อที่จะมาทำมาหากินที่ที่ภรรยาผมทำอยู่เดิม ( ขายของชำหน้าโรงงาน )ทั้งที่ตอนนั้นก็ทำมาหากินอยู่ดีดี มีรายได้มากกว่าตั้งเยอะ ผมก็พยายยามจะบอกว่าไม่ครับ ( แบบสุภาพครับ ) เป็นเหตุทำให้ญาติไม่พอใจ จะเอาที่ดินคืน ( เป็นที่ดินเปล่า ) โดยอ้างว่าขอดูโฉนดว่าอยู่หรือเปล่า พอผมเอาไปให้ดู โดนยึดเลยครับ แล้วบอกว่าเป็นที่ดินของครอบคัวเขา ผมขอถามดังนี้นะครับ
1 ถ้าผมไปแจ้งความเพื่อขอโฉนดตัวจริงคืน จะถือว่าเนรคุณหรือไม่ครับ
2 ถ้าผมจะใช้ประโยชน์บนพื้นที่ดิน โดยล้อมรั้วที่ดิน จะเหลือทางสาธารณะเพียงสองห้าสิบ ซึ่งรถใหญ่ของที่แปลงใน( ที่ยังไม่ได้แบ่ง )ของญาติจะออกไม่ได้ ผมจะทำไงดีครับ ล้อมรั้วตามหน้าโฉนด หรือเว้นที่ให้รถใหญ่วิ่งได้
3 มีการถอนหลักเขตรังวัดออก ผมไม่รุ้ว่าหลักเขตหายไปตอนไหน ถ้าผมรังวัดใหม่ แล้วหายอีก จะทำไงดีครับ
3 ญาติ ๆ เข้าห้ามไม่ให้เข้าไป ที่ที่ดินด้วย มีการขู่จะทำร้าย แล้วถ้าผมเข้าไปตรงที่ดินของภภรยาแล้วถูกทำร้ายจะแจ้งความข้อหาทำร้ายร่าง และบุกรุกได้หรือไม่ครับ
4 ญาติจะแจ้งครอบครองปรปักษ์ได้หรือไม่ครับ เพราะโซนที่ดินนั้นเป็นญาติกันทั้งนั้น
1. ไม่ถือว่าเป็นเนรคุณ การเนรคุณต้องเป็นเรื่องที่คุณไปทำร้ายผู้ให้จนเป็นความผิดอาญา
2. เพื่อไม่ให้เกิดทะเลาะกันมากยิ่งขึ้น ควรทำเขตที่ดินที่เปิดให้รถวิ่งไว้ แล้วทำป้ายติดไว้ให้ชัดเจนว่าทางสงวนสิทธิ
3. ก็ต้องทำหลักที่ติดแน่นหนา
3.. เมื่อเป็นที่ดินของภรรยาคุณ ๆ ก็เข้าไปได้
4. ถ้าเขาเข้าครอบครองโดยสงบ เปิดเผย และเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันสิบปี ก็ครอบครองปรปักษ์ได้