สวัสดีค่ะ  ขอกราบเรียนถามข้อข้องไขกับอาจารย์ดังนี้ค่ะ

ดิฉันได้ทำสัญญากู้เงินไว้ฉบับหนึ่ง โดยดิฉันเป็นผู้ให้กู้  ในสัญญาระบุว่าผู้กู้ได้เอาที่ดินค้ำประกันไว้  (ที่ดินนี้เป็นที่ดินที่มีโฉนดร่วม โดยผู้กู้มีกรรมสิทธิ์ถือครองในส่วนน้อยของที่ดิน โฉนดตัวจริงนั้นผู้มีกรรมสิทธิ์ถือครองที่ดินส่วนใหญ่เป็นผู้ถือไว้ และที่ดินก็ไม่ได้แบ่งส่วนชัดเจนว่าตรงไหนเป็นของใคร)   ดิฉันไม่ได้ขอดูโฉนดก่อนทำสัญญากู้เงินค่ะ

ต่อมาผู้กู้นั้นไม่สามารถชำระเงินให้ดิฉันได้  ดิฉันมีสิทธิ์ที่จะนำสัญญากู้เงินฉบับนั้นไปยื่นฟ้องต่อศาลได้หรือไม่คะ  

สัญญากู้เงินโดยเอาที่ดินค้ำประกันไว้นั้น ไม่ได้ทำต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่  แล้วจะเป็นหลักฐานทางกฏหมายได้หรือไม่คะ

ถ้าดิฉันยื่นฟ้องต่อศาลจะมีผลอย่างไรต่อผู้มีกรรมสิทธิ์ถือครองที่ดินส่วนใหญ่คะ และเค้าสามารถฟ้องร้องดิฉันกลับเพื่อรักษากรรมสิทธิ์ถือครองที่ดินของเค้าได้มั๊ยคะ  (ผู้มีกรรมสิทธิ์ถือครองที่ดินส่วนใหญ่ไม่มีส่วนรู้เห็นในสัญญาเงินกู้เลยค่ะ)

ดิฉันอยู่ต่างประเทศ ถ้าจะทำหนังสือมอบอำนาจให้คนทีเมืองไทยดำเนินเรื่องฟ้องร้องให้ทั้งหมด  จะต้องทำอย่างไรบ้างคะ

ดิฉันไม่อยากให้เรื่องยืดยาวมาก ในขั้นแรกยื่นฟ้องก่อน ต่อมาถ้าสามารถเจรจาตกลงกันได้ ดิฉันจะขอถอนฟ้องได้มั๊ยคะ จะมีผลอย่างไรหรือไม่คะ

ขอบพระคุณอาจารย์ที่กรุณาตอบคำถามของดิฉันค่ะ

ตุลยา

- เมื่อมีหนังสือสัญญากู้เงิน ก็สามารถฟ้องร้องบังคับคดีกันได้

- ไม่ทำให้สัญญากู้เงินนั้นเสียไป ส่วนที่บอกว่ามีที่ดินค้ำประกันนั้นก็ไม่ได้มีความหมายอะไรนอกไปจากบอกให้รู้ว่าผู้กู้มีที่ดินอยู่เท่านั้น

- เวลาคุณฟ้องร้องผู้กู้นั้น ก็ไม่กระทบอะไรกับเจ้าของที่ดินคนอื่น เพียงแต่ว่าเมื่อถึงเวลาบังคับคดี หากเขาไม่ชำระหนี้ คุณก็มีสิทธิไปยึดที่ดินเฉพาะส่วนของผู้กู้มาขายเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ได้

- ทำได้

- ทำได้

   จะเขียนคำถามทั้งที เมื่อไม่มีกำหนดเป็นข้อ ๆ ก็เลยไม่รู้จะตอบอย่างไร อ่านเอาเองก็แล้วกันว่าคำตอบไหนเป็นเรื่องไหน