กราบขออภัยอาจารย์ด้วยครับ เนื่องจากผมพิมพ์เร็วเกินไปหน่อย จึงไม่ได้ตรวจทานชื่อตัวละครในเหตุการณ์ทำให้เกิดความสับสนในข้อความ

ขอแก้ไขเป็นว่า  ผู้ที่ยิง นส.เอ และมารดาเสียชีวิต คือนาย บี เด็กหนุ่มข้างบ้านที่ชอบพอกันมานานและหมั้นหมายกันไว้ครับ ขอแก้ไขตามนี้ครับ

นายดำกับนางแดงเป็นสามีภรรยากัน เป็นคนบ้านนอก(ภาคอิสาน) มีลูกสาวอยู่คนหนึ่งเพิ่งจะเรียนจบม.6 ยังไม่มีเงินเรียนต่อมหาวิทยาลัย อายุเพิ่งจะ 19 ปี สมมุติชื่อ นส.เอ ต่อมานายบี เด็กหนุ่มข้างบ้านเกิดมาสนิมสนมชอบพอ ผู้ใหญ่กลัวเด็กจะนอกลู่นอกทางกันก็เลยจับให้หมั้นหมายกัน ( ตามแบบคนบ้านนอก แค่ผูกข้อไม้ข้อมือกัน ) แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนแต่งงานกันหรืออยู่กินกันแบบผัวเมีย และก็ไม่ได้อยู่บ้านหลังเดียวกันหรือย้ายทะเบียนบ้านตามกัน เนื่องจากตอนนั้นเด็กผู้หญิงยังเรียนหนังสืออยู่

เหตุการณ์พลิกผัน จากปัญหาเรื่องปากท้องไม่พอจะกิน นส.เอกับแม่ต้องลงมาทำงานรับจ้างที่ชลบุรี นายบีก็ตามลงมาทำงานด้วยกัน วันดีคืนดี นส.เอกับนายบีทะเลาะกัน เรื่องอะไรไม่อาจทราบได้ นายบีใช่ปืนยิง นส.เอ เสียชีวิต แล้วยังยิงนางแดง แม่นส.เอ ตายตามอีกศพหนึ่ง จากนั้นนายบีก็หนีไปยิงตัวตายหนีความผิด

ตอนที่ตายกันสามศพนั้น ไม่มีญาติพี่น้องของทั้งสองฝ่ายอยู่ในเหตุการณ์เลย ตำรวจก็ได้แต่สอบถามจากเพื่อนร่วมงานและคนที่เช่าห้องพักห้องใกล้ๆกัน ตำรวจเลยลงบันทึกเหตุการณ์ในบันทึกประจำวันเป็นทำนองว่า เป็นเรื่องในครอบครัว ลูกเขยฆ่าแม่ยายพร้อมเมีย แล้วยิงตัวตายหนีความผิด นายดำมารับศพลูกกับเมียถึงกับตกใจ ไม่นึกว่าตำรวจจะสรุปสำนวนคดีแบบนี้

คำถามก็คือ

1. มีหนทางที่จะขอรับเงินช่วยเหลือจากหน่วยงานหรือจากกองทุนอะไรได้บ้าง ในกรณีดังกล่าว

2. การที่ตำรวจลงบันทึกประจำวันแบบนั้น มีผลต่อการขอรับเงินช่วยเหลือมั๊ย

3. สองแม่ลูกตอนนี้ เผาศพไปเรียบร้อย ( แบบว่าฐานะยากจน คงไม่มีปัญญาเก็บไว้นาน ) จะตายฟรีมั๊ย

ขอความอนุเคราะห์จากอาจารย์ช่วยตอบด้วยครับ และต้องขอกราบขออภัยอาจารย์เป็นอย่างสูงที่ต้องเสียเวลามานั่งอ่านคำถามผมถึงสองรอบ ขอคุณครับ

1. ไม่ทราบ

2. คงไม่เกี่ยวกัน

3. เมื่อคนยิงตายไปแล้ว ก็คงเอาผิดจากใครไม่ได้