กรรมสิทธิ์รวม และสิทธิเก็บกินเฉพาะส่วนตลอดชีวิต
ต้องขออภัยด้วยค่ะ ด้วยความรีบกลัวว่าลุง จะเสียชีวิตไปซะก่อน จึงไม่มีข้อเท็จจริงบอกกล่าว
คือ แม่มีที่ดินอยู่ 3ไร่กับ300ตร.ว.ค่ะ เป็นที่ดินที่แอบเก็บเงินซื้อสมัยอยู่กับพ่อ คือแอบส่งเงินจากต่างจังหวัด ส่งมาให้ลุงซึ่งเป็นพี่ชายคนโต ซื้อเพื่อให้ตากับยายอยู่โดยไม่ต้องเช่าที่คนอื่น โดยลุงคือพี่ชายคนโต บอกว่าให้ใส่เป็นชื่อลุงไปก่อน เพราะถ้าใส่ชื่อ ตากับยาย เดี๋ยวจะกลายเป็นมรดกเมื่อตากับยายเสีย แต่แล้วเมื่อตากับยายเสียชีวิต แม่ก็เอ่ยเรื่องที่ดินขึ้น ลุงกับขอตรงๆ ว่า ขอให้เป็นที่อยู่ของพี่ๆ ต่อไปได้มั้ย ซึ่งแม่ก็ไม่ขัดข้อง เพียงแต่ต้องการให้เปลี่ยนชื่อในโฉนดมาเป็นชื่อแม่ซึ่งเป็นเจ้าของตัวจริงให้เรียบร้อย แต่แล้วไม่ทราบว่าลุงเกิดเป็นห่วงเป็นใยพี่น้องที่อยู่อาศํยบนที่ดินผืนนี้มากมาย ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้มาอยู่ด้วย กลายเป็นขอเอาดื้อๆ ว่าจะเอาไว้ให้พี่ น้องอยู่กันต่อไป
เรื่องเกิดตรงเจ้าของคือแม่ของดิฉันไม่ให้ ลุงเลยนำโฉนดไประบุด้านหลังว่าพี่ชายอีก3และพี่สาวอีก2ของแม่ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินคนละ315วา และ สิทธิในการเก็บกินผลประโยชน์ตลอดชีวิต โดยไม่มีชื่อแม่ของดิฉันเลย
และขณะนี้ลุงป่วยเป็นอัมพาต ต้องเจาะคอ มีอาการติตเชื่อที่ปอดบ่อยมาก ลูกชายคนโตของลุงรู้เรื่องดีทุกอย่าง จึงอยากคืนที่ดินผืนนี้ให้กับแม่ของดิฉัน และก็ได้เห็นโฉนดเป็นครั้งแรก ซึ่งมีรายชื่ออี5คนอย่างที่บอกไปข้างต้น ว่าระบุว่ามีกรรมสิทธิ์รวมในที่ดิน และสิทธิในการเก็บกินผลประโยชน์ตลอดชีวิต
นี้เป็นข้อเท็จจริงที่ไม่ได้บอกละเอียดในการถามคำถามครั้งแรก เลยทำให้อาจารย์ต้องเสียเวลาต้องขออภัยด้วยค่ะ
คำถามแรกก็คือ ดิฉันไม่เข้าใจทึ่ว่ากรรมสิทธิ์รวม คนละ315วา ว่าจะมีผลต่อไปอย่างไร เมื่อลุงของดิฉันเสียชีวิตลงและสิทธิในการเก็บกินผลประโยชน์ด้วยค่ะ จะเหมือนกับที่อาจารย์ได้ตอบปัญหาคนอื่นไปมั้ย เพราะเท่าที่ได้อ่านมา เข้าใจว่า ทุกคนมีชื่อก็มีสิทธืในการใช้ประโยชน์ในที่ดินจนกว่าจะตาย จึงจะหมดสิทธิ์ใช่หรือเปล่าคะ แต่กรรมสิทธิ์รวมดิฉันคงต้องให้อาจารย์อธิบายให้เข้าใจค่ะ และจะมีวิธีไหนที่แม่จะได้สิทธิ์ของความเป็นเจ้าของแท้จริงคืน เพราะเท่าที่ถามพวกลุง ป้า ก็เห็นว่าจะไม่เอา แต่พวกเขามีชื่อลงไปหมดแล้ว ลืมบอกไปค่ะว่าเป็นมุสลิม จะต้องทำให้ถูกต้องก่อนตาย ไม่งั้นจะบาปติดตัวไปถึงโลกหน้า นี้คือความเชื่อของชาวมุสลิมค่ะ อาจารย์ช่วยตอบปัญหาดิฉันหน่อยเถอะค่ะ ไม่ทราบว่าที่เล่ามาเป็นข้อเท็จจริงได้พอหรือเปล่า |