กราบเรียน อาจารย์มีชัย
ดิฉันมีเรื่องเรียนถาม อาจารย์มีขัยคือปัญหาเรื่องมรดก มีที่ดินสองแปลงพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ก่อนสามีจะเสียชีวิตมีหนี้สินกับธนาคารอยู่ จากการที่สามีป่วยเป็นโรคเรี้อรังมานาน แม่ของสามีเลยใช้หนี้ของธนาคารให้หมด โดยแอบทำสัญญาเป็นเงินกู้ประกันเอาไว้โดยส่วนตัวดิฉันไม่รู้เรื่อง หลังจากสามีเสียชีวิตแล้วได้นำเงินค่าประกัยชีวิตของสามีมาสร้างบ้านอีกหลังและในฐานะผู้รับมรดก ต่อมาแม่ของสามี มีความคิดว่าให้โอนที่ให้ลูกทั่งสองคน ดิฉันก็ไม่ได้คิดอะไรโดยใส่ชื่อที่ดินทั้งสองปลงให้กับลูกชายคนโตและน้องสาวคนเล็ก ซึ่งตอนนั้นลูกสาวคนเล็กยังไม่รรลุนิติภาวะแล้วจะได้แยกแปลงกันอีกที ส่วนดิฉฉันก็ค้าขายเล้กๆน้อยๆตามอัฒภาพ ต่อมาก็เกิดเรื่องที่ไม่คาดคิด ทางแม่ของสามีร่วมกับลูกชายคนโต รู้เห็นเป็นใจไม่บอกไม่ปรึกษาสักคำ ส่งลูกสาวคนเล็กไม่ได้รู้เรื่องเลย โอนที่ดินทั้งสองปลงให้น้าซึ่งเป็นน้องสาวของสามี โดยทำบันทึกการซื้อ-ขายกันที่สำนักงานที่ดิน แต่ความเป็นจริงลูกของดิฉันทั้งสองคนไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว ต่อมาแม่ของสามีก็มาไล่ดิฉันออกจากบ้านที่ดิฉันสร้างกับเมือของต้วเอง ทุกวันนี้ต้องทนอยู่ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน มีความทุกข์ใจและเดือดร้อนมาก ลูกชายคนโตรู้เห็นเป็นใจกับฝ่ายโน้น โดยที่ไม่สนใจ ใยดีกับดิฉันกับลุกสาวคนเล็กเลยขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ จึงของเรียนถามอาจารย์ดังนี้
1.การที่ลูกชายคนโตเอาที่ดินร่วมของน้องสาวไปขาย ซึ่งตอนนั้นยังไม่บรรลุนิติภาวะถือว่าเป้นโมฆะ โดยที่ไม่มีคำสั่งของศาลบังคับ
2.ถือว่าเป็นการฉ้อโกงไหม
3.การเซ็นต์ยินยอมของน้องสาวโดยที่รู้เท่าไม่ถึงการจะมีผลทางกฏหมายที่สมบูรณ์ไหม
4.ถ้าเราจะฟ้องร้องเอาที่คืนมาให้ลูกสาวคนเล็กจะได้ไหม
5.การกระทำของลูกชายคนโตแบบนี้เรามีสิทธิฟ้องยกเลิกให้มรดกได้หรือเปล่า
6.ถ้าฟ้องร้องค่าใช้จ่ายมากไหมเพราะไม่ค่อยมีเงิน
จึงกราบเรียนถามอาจารย์ ขอบพระคุณล่วงหน้า
คนรอคำตอบ
ดยใช้
เรียน คนบัวใหญ่
1. ถ้าเขานำไปขายโดยไม่ได้รับความยินยอมก็ขายไม่ได้ แต่ถ้าได้รับความยินยอม โดยที่น้องสาวยังไม่บรรลุนิติภาวะ การให้ความยินยอมนั้นก็เป็นโมฆียะ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมให้ขายได้จากผู้ปกครอง
2. ยังไม่แน่หรอกว่าจะต้องเป็นการฉ้อโกง
3. ดูข้อ 1
4. ถ้าเขาทำไปในระหว่างยังไม่บรรลุนิติภาวะและไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง ก็เป็นโมฆะ อาจบอกล้างนิติกรรมหรือการซื้อขายในส่วนของเขาได้
5. การที่คุณโอนที่ดินใส่ชื่อเขาในขณะที่คุณยังมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่เป็นมรดก หากแต่เป็นการยกให้ ถ้าเขาไม่ได้เนรคุณ ก็เอาคืนไม่ได้
6. ต้องถามทนายความว่าเขาจะคิดเท่าไร