เรียนท่านอาจารย์มีชัย

( เรื่องที่ 1 )   ผมมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการที่เจ้าของบ้าน ถ้าถูกขโมยขึ้นบ้านแล้ว  ถูกกลั่นแกล้งทำลายข้าวของเมื่อไม่อยู่บ้าน  ถ้าหากว่าเราจะป้องกันด้วยการขึงลวด  แล้วปล่อยกระแสไฟฟ้ารอบตัวบ้านชั้นใน  ( ไม่ใช่รั้วชั้นนอกที่คนทั่วไปสัมผัส )  แล้วปล่อยกระแสไฟฟ้า  ติดป้ายเตือนว่า "อันตรายมีกระแสไฟฟ้า" 

             ในกรณีที่มีบุคคลแอบเข้ามาภายในบริเวณบ้านแล้ว  เขาแอบกระโดดข้ามรั้วชั้นนอกสุดเข้ามาภายในบริเวณสวน  แล้วมาสะดุดลวดไฟฟ้าตายภายในบริเวณบ้านชั้นใน   เหตุการณ์แบบนี้เจ้าของบ้านผู้เดินกระแสไฟฟ้าจะมีความผิดประการใดบ้างครับ

              การปล่อยกระแสไฟฟ้าผ่านลวดในปริมาณที่แตกต่างกัน  มีผลต่างกัน  ระหว่างคนที่มาสะดุดลวดไฟฟ้า  ตาย  กับ  ถูกช๊อตจนสลบ  ผลทั้งสองอย่างมีผลทำให้เจ้าของบ้านได้รับโทษต่างกันไหมครับ

( เรื่องที่ 2 )   ในกรณีที่มีบุคคลใครก็ไม่ทราบมาดักซุ่มอยู่ใกล้ ๆ ตัวบ้าน  ประมาณ 5 ทุ่มถึงตี 3 ทุกคืน  ได้ยินเสียงการขึ้นลำเลื่อนปืนของเขา  ในกรณีแบบนี้ถ้าหากเราถามไปก่อนว่า  " ใคร "  แล้วเราใช้อาวุธปืน ( มีทะเบียน ) ยิงไปเดา ในความมืด  เกิดถูกร่างกายเขา ตาย  ผู้ยิงจะมีโทษอะไรบ้างครับ

           แล้วถ้าหากยิปแล้ว  เขาได้รับบาดเจ็บ  เราเห็นว่าเขาเจ็บ  โทร.แจ้งตำรวจให้มาจับ  ผู้ยิงจะมีข้อหาหรือโทษอะไรบ้างครับ

           การที่เราจะใช้อาวุธปืนของเราได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายเพื่อการป้องกันตัว  ต้องใช้อย่างไรครับ 

                                                 ขอแสดงความนับถือ

เรียน ประชาชนทั่วไป

1. หลักของกฎหมายมีอยู่ว่า การที่บุคคลเจตนาทำให้คนอื่นได้รับบาดเจ็บหรือถึงตายโดยไม่มีความผิดได้ก็ต่อเมื่อเป็นการป้องกันตนเองหรือผู้อื่น กรณีหนึ่ง อีกกรณีหนึ่งก็คือ เป็นการกระทำด้วยความจำเป็นเพราะตกอยู่ในที่บังคับหรือภายใต้อำนาจหรือเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นพ้นจากภยันตรายซึ่งในกรณีหลังนี้ยังมีความผิดเพียงแต่ไม่ต้องรับโทษ   แต่การที่บุคคลจะอ้างว่าเป็นการป้องกันตนเองหรือผู้อื่นนั้นมีเงื่อนไขว่าภยันตรายนั้นต้องเป็นภยันตรายอันใกล้จะถึงและได้กระทำไปพอสมควรแก่เหตุ  กรณีที่คุณยกตัวอย่างมานั้น ยังไม่ถึงขั้นที่จะอ้างได้ว่าเป็นภัยที่ใกล้จะถึง ถ้าไปทำให้คนอื่นตายหรือสลบก็อาจมีความผิดต้องรับโทษได้

2. กรณีที่ ๒ ก็จะเป็นเช่นเดียวกับกรณีที่ ๑ เมื่อไม่ปรากฏว่าคนที่มาซุ่มอยู่นั้นเป็นอันตรายอย่างใดกับคุณ การไปยิงเขาเข้าก็อาจเป็นความผิดได้เช่นเดียวกัน

   การที่คนทั่วไปจะป้องกันตนเองได้นั้น จึงจำเป็นต้องพิจารณาตามหลักที่กล่าวไว้ในข้อ ๑