เรียนท่านมีชัยที่เคารพ
ดิฉันเป็นข้าราชการครู มีบ้านอยู่เองหลังหนึ่ง ติดจำนองผ่อนกับสหกรณ์เป็นหลักล้าน ผ่อนเดือนละ สองหมื่นกว่าบาท ผ่อนจนเกษียณก็ยังไม่หมดหนี้จำนวนนี้... และดิฉันมีที่ดินอีกแปลงหนึ่งจำนองผ่อนกับธนาคารออมสิน เดือนละ หมื่นกว่าบาท ไม่มีเงินเหลือพอกินใช้มากนัก.. และได้รวบรวมเงินปลูกบ้านชั้นเดียวพอดูได้แบ่งเป็นห้องให้เช่า ได้ 5 ห้อง ห้องละ 1,200 บาท ได้เงินมาเดือนละประมาณ 6,000 บาท ทุกปีเสียภาษีโรงเรือนให้กับเทศบาลตามที่เขาคำนวณตกประมาณปีละ9,000 บาท ข้อสงสัย หนักใจ คาใจ ทุกข์ใจยิ่งกว่าหนี้สินก็คือ รายได้จากค่าเช่าที่เล่าให้ฟังนี้ ต้องนำไปคำนวณภาษีหรือไม่ เพราะคิดเอาเองว่า รายได้ยังไม่พอที่จะจ่ายเป็นค่าผ่อนรายเดือน... แต่คิดไปคิดมา เดี๋ยวเขาเกิดคิดภาษีย้อนหลังเราจะแย่.... แต่ถ้าเสียภาษี เราก็แย่.... เพราะเทศบาลเอาไปเกือบหมื่นแล้ว เราจะหาที่ไหนมาให้เป็นค่าภาษี ... ทุกวันนี้เป็นหม้ายหาเลี้ยงลูกสองคนด้วยเงินเดือนครูอย่างเดียว กู้เขาสารพัดเพื่อให้มีกิน .. จะขายทิ้งก็เสียดาย กว่าจะผ่อนมาได้ ..เราจะทำอย่างไรดี ช่วยแนะนำด้วยค่ะ..จะได้ถูกต้อง และโล่งใจ คิดขึ้นมาทีไรก็กลัว หนักใจ...ขอขอบพระคุณ และรอคำตอบจากท่านอยู่ค่ะ หวังว่าคงได้ทางออกที่ดี ช่วยเป็นหนทางให้คนที่ลำบากหนักอยู่แล้วด้วยค่ะ ..จาก ครูไม่รู้
เรียน ครูไม่รู้
ภาษีที่เทศบาลเขาเรียกเก็บนั้น เป็นภาษีโรงเรือนและที่ดิน ที่เขาเก็บเป็นรายปี แต่คนเรานั้นเมื่อมีรายได้ ก็ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีกส่วนหนึ่ง รายได้ที่ได้จากค่าเช่านั้นต้องนำมารวมกับรายได้เงินเดือนที่ได้รับแล้วรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ทุกปี