กราบสวัสดี อ.มีชัย ที่เคารพ ก่อนอื่นผมต้องขอแสดงความเคารพอาจารย์อย่างจริงใจ เนื่องจากได้ฟังคำให้สัมภาษณ์ของอาจารย์ผ่านทางโทรทัศน์ช่องข่าวของ The Nation ในเช้าวันที่ 27 พฤศจิกายน 2551 เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ทำการปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้มีผู้โดยสารตกค้างสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง ผมได้ดูการรายงานข่าวในหลายช่องทาง หลายท่านก็มีการวิจารณ์ว่า สิ่งที่ พธม.ทำ สร้างความเสียให้แก่ประเทศชาติอย่างไรเสียหายเท่าไร แต่น้อยคนนักที่จะเอ่ยถึงการให้ความช่วยเหลือแก่นักท่องเที่ยวที่ประสบเหตุการณ์ดังกล่าว ผิดกับอาจารย์ที่เสนอทางที่จะบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเสียสละประโยชน์ส่วนตัว เสนอตัวให้ความช่วยเหลือแก่ชาวต่างชาติเหล่านั้นผ่านทางผู้สื่อข่าวของ The Nation ทันที
ผมเองก็มีความเป็นห่วงประเทศชาติเช่นกัน อยากจะช่วยแก้ไขปัญหาบ้านเมือง แต่เนื่องจากการศึกษาไม่สูง ฐานะทางสังคมไม่ดี โอกาสที่จะแสดงความคิดเห็นที่อาจจะเป็นประโยชน์แก่บ้านเมืองจึงไม่มีอย่างแน่นอน จึงต้องรบกวนทางอาจารย์ หากเห็นว่าความคิดเห็นของผมอาจจะเป็นประโยชน์ได้ อยากให้อาจารย์ช่วยผลักดันให้เป็นรูปธรรมด้วยนะครับ
แน่นอนว่าการที่จะแก้ปัญหาใดๆได้นั้น การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุคือทางออกที่ดีที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่ก็ว่าปัญหาเกิดจาก คุณทักษิณ หรืออีกกลุ่มก็บอกว่าปัญหามาจากเหล่าแกนนำของกลุ่มพันธมิตร ความขัดแย้งทางความคิดพัฒนามาเป็นการเผชิญหน้าของกลุ่มคนที่มีความคิดเห็นต่างกัน ภาพที่ออกมามีแนวโน้มที่จะทำให้ชาติล่มสลาย หากจะหาสาเหตุกันจริงๆแล้ว ก็ต้องพูดกันถึงที่มาของปัญหาให้ได้เสียก่อน ก่อนที่คุณทักษิณจะมาเล่นการเมืองนั้น ว่ากันว่าพรรคการเมืองไทยนั้นไม่มีเสถียรภาพ กลุ่มก๊วนนักการเมืองนั้นต่างก็มีอำนาจต่อรองเพื่อผลประโยชน์ ต้องยอมรับว่า คุณทักษิณเก่งที่สร้างพรรคไทยรักไทยให้มีเสียงข้างมากในสภาได้จากนโยบายประชานิยมอย่างเบ็ดเสร็จ และปฏิเสธไม่ได้ว่าในประเทศด้อยพัฒนาและยากจนนั้นประชานิยมนำมาซึ่งเสียงข้างมากได้ย่างง่ายดายเสมอ ตลอดระยะเวลาที่คุณทักษิณเป็นนายก มีเสียงส่วนน้อยที่เคลือบแคลงสงสัยเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อน แต่ก็ไม่มีข้อสรุปว่าผิดจริงหรือไม่ แต่จากการปฏิบัติตน การแสดงออกของคุณทักษิณ คนที่มีความรู้ส่วนใหญ่ก็น่าจะวิเคราะห์ได้ ในสภาถ้ามีเสียงสนับสนุนมาก ญัตติไม่ไว้วางใจใดๆก็ทำอะไรจำเลยไม่ได้ หากจะถูกซักฟอกหนักๆไม่เป็นผลดี ก็ใช้ทางออกยุบสภาหนี ให้ประชาชนที่ยังไม่รู้ตื้นลึกหนาบางตัดสิน เลือกตั้งกันใหม่ อีกฝ่ายบอกไม่แฟร์ ไม่ร่วมสังคกรรมด้วย ก็ไม่จำเป็นต้องง้อ พรรคเล็กเยอะแยะ ทำให้ครบตามองค์ประกอบกฎหมายก็เลือกตั้งใหม่ได้ ฝ่ายแพ้และผู้ที่ไม่เห็นด้วย ก็หาทางสู้แบบนอกกฎหมายแทน การเสี้ยมฝูงชนให้เผชิญหน้ากันก็เกิดขึ้นตามลำดับ เป็นที่มาของรัฐประหาร หวังว่าจะแก้ปัญหาที่คิดว่าน่าจะมาจากตัวบทกฎหมาย แก้แล้วสกัดแล้ว หวยกลับมาออกที่พรรคเดิม เจ้าของบริษัทไม่อยู่เองแต่ก็มีผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายต่างๆ ดูแลความเป็นไป รักษาผลประโยชน์ให้ได้ อย่างนี้ก็น่าเห็นใจผู้แพ้ที่จะต้องเล่นกันแบบนอกกฎหมายเหมือนเดิมแต่ต้องแรงขึ้น ซึ่งการกระทำของทั้งสองฝ่ายต่างก็อ้างว่าทำเพื่อชาติบ้านเมือง เพื่อประชาธิปไตย เอาประชาชนและผลประโยชน์ของชาติเป็นตัวประกัน เข้าหำหั่นเอาชนะกัน ฝ่ายมีโอกาสอ้างว่ามีเสียงข้างมากหนุนหลัง ใช้ประชานิยม ลดแลกแจกแถม เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจเพื่อแสวงหาผลประโยชน์เข้าตนเองและพวกพ้อง ซึ่งใช่ว่าผู้สนับสนุนใช่ว่าไม่รู้ รู้ทั้งรู้ และสำนึกได้อยู่เสมอว่านักการเมืองแบบนี้มีหรือที่จะไม่ทำเพื่อประโยชน์ของตัวเอง แต่อย่างน้อยโปรโมชั่นประชานิยมก็ถึงมือพวกเขาจริงๆ อย่างที่ไม่เคยได้รับ ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งก็เห็นว่านักการเมืองเหล่านี้แหละที่จะทำให้หนี้สาธารณะเพิ่ม อิสระชนต้องกลายเป็นทาสในระบบทุนนิยม โกรธพวกโกงบ้านกินเมือง และบางส่วนก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสู้เพราะความริษยา กลยุทธที่นำมาใช้กันต่างๆนานา โดยเฉพาะของฝ่ายรัฐบาลช่างน่าทุเรศ ส่วนฝ่ายพันธมิตรก็ใช้กลยุทธสร้างความเสียหาย เป็นเวรกรรมของประเทศชาติ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดที่จะเป็นรอยแผลฝังลึกในจิตใจก็คือการเข้าประหัดประหารกันของคนไทยด้วยกัน หวังพึ่งทหาร ผบทบ.ก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ขยับทางไหนก็ไม่ได้ อันดับแรกเราต้องช่วยตัวประกันให้ได้เสียก่อน ผมหมายถึงฝูงชนเสื้อแดง ต้องทำให้เขารู้และเข้าใจมากขึ้น เข้าใจว่าถูกหลอกใช้ เข้าใจว่าในอนาคตใครเข้ามาเป็นรัฐบาลเขาก็มีโครงการดีๆที่อาจจะมีสิ่งซ้อนเร้นน้อยกว่าที่ผ่านมาก็ได้ เช่นการมีรายการโทรทัศน์ที่กล่าวถึงพระราชโอวาท เศรษฐกิจพอเพียงกับการเมืองที่ผ่านมา วิเคราะห์กันตามลำดับเหตูการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวประกันของฝ่ายเสื้อเหลืองผมเห็นว่าเป็นผู้ที่เสียสละเพื่อส่วนรวมมากกว่า 90% ไม่จำเป็นต้องไปช่วยพวกเขา เพราะเมื่อบรรยากาศเบาบางลง เขาจะสลายตัวไปเอง แต่ส่วนที่นักการเมืองซีกรัฐบาลนั้น ผมคิดว่าพวกเขาไม่ใช่จะหิวแต่ผลประโยชน์เสมอไปหรอก บางส่วนก็ยังเห็นประโยชน์จากบริหารบ้านเมืองแบบมีประสิทธิภาพ อยากให้ประเทศชาติร่ำรวย พวกเขาก็ร่ำรวยขึ้นด้วย แต่สิ่งที่ลืมไปว่าความร่ำรวยที่ว่านั้นเป็นสิ่งสมมติ ความร่ำรวยที่แท้จริงน่าจะเป็นความร่ำรวยตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงต่างหาก หากคิดได้สักนิดเสียสละผลประโยชน์ที่รับจากคนพาล ทุกอย่างก็จะจบลงได้โดยง่าย ท้ายที่สุดการเข้าใจถึงเหตุอย่างแท้จริง จะนำมาซึ่งการอภัย ประเทศไทยก็น่าจะกลับคืนมาได้ครับ
สุดท้ายนี้ผมไม่ได้หวังว่าข้อความของผมจะต้องถูกแสดงในบอร์ด เพราะข้อความบางอย่างอาจเป็นแค่ความคิดเห็นเพียงด้านเดียว หรืออาจเป็นเหตุให้ถูกโจมตี แต่ก็ยังหวังว่าแนวทางที่ผมเสนอจะมีผู้ที่มีโอกาสที่ดีกว่าได้นำไปทำให้เป็นรูปธรรมได้ ขอแสดงความเคารพอย่างสูงครับ