เรียน คุณมีชัย

     ดิฉันมีเรื่องสอบถามเกี่ยวกับผู้ซื้อได้ทำสัญญาซื้อขายที่ดินกับพ่อของดิฉันเมื่อวันที่ 1 กันยายน ปี พ.ศ. 2531 โดยเป็นการซื้อขายที่ดินที่พ่อของดิฉันถือครองกรรมสิทธิ์และทำประโยชน์ในที่ดินมาประมาณ 22 ปี ซึ่งในหนังสือสัญญาได้ระบุจำนวนเงิน 250,000 และได้จ่ายเป็นค่ามัดจำแล้ว 125,000 บาท และระบุในสัญญาว่า เงินคงเหลือ 125,000 บาท ได้ชำระให้ในวันทำสัญญาโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน ณ ที่ว่าการอำเภอศรีราชา เมื่อผู้ซื้อได้รับเอกสารสิทธิ์แล้ว ซึ่งนับตั้งแต่วันที่ทำสัญญา ผู้ซื้อก็ได้ดำเนินการขอออกใบโฉนดที่ดิน ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ทางพ่อของดิฉันก็ไม่ได้รับการติดต่อจากผู้ซื้ออีกเลย นับตั้งแต่มีการทำหนังสือสัญญา ก็ล่วงเลยมาเป็นเวลา 21 แล้ว เงินที่เหลือก็ยังไม่ได้ และที่ดินที่พ่ออยู่มานาน นับตั้งแต่ได้ครอบครองเป็นเวลา 43 ปี ไม่สามารถติดต่อผู้ซื้อได้เลย ประเด็นที่จะถามก็คือ

1. หากผู้ซื้อที่ดินนำเอกสารไปขอออกโฉนดที่ดินเรียบร้อยแล้วนั้น พ่อจะเรียกร้องสิทธิ์คืนได้หรือไม่ เนื่องจากยังไม่ได้จ่ายเงินที่เหลือจะถือว่าผิดสัญญาได้มั๊ย

2. ปัญหาของหนังสือสัญญาก็คือผู้ซื้อระบุชื่อ นายประยูร จรรยาวงษ์ ซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้วเนี๊ยะซิค่ะ แต่พ่อบอกว่า ที่ดินเค้าได้มาออกรังวัดเรียบร้อยแล้วเมื่อปี 2535  (ก็แล้วทำไมไม่จ่ายตังค์ เจตนาโกงมั๊ยค่ะ) และเจ้าของก็ชื่อนายกมร แต่ไม่ทราบนามสกุล

3. หนังสือสัญญาซื้อขายที่ดินที่เก่าฉบับนี้จะยังมีความหมายมั๊ยค่ะ

4. อันนี้ความรู้สึกส่วนตัวค่ะ คือ หากที่ดินที่คนซื้อได้ทำการออกโฉนดแล้วแต่ไม่สนใจเงินที่เหลือซึ่ง 125000 เมื่อ 21 ปีที่แล้ว หากนับตอนนี้ก็คงทวีคูณ นะค่ะ และอยากที่จะฟ้องขอที่ดินคืน หรือไม่ก็ร้องขอต่อศาลเพื่อขอครอบครองปรปักษ์ แต่จะทำทำไมในเมื่อเราไม่ได้มีเจตนายึดทรัพย์ผู้อื่น แต่มันเป็นทรัพย์ของพ่อแม่ที่บุกเบิกทำกินมา แล้วต้องมาเสียรู้ ก็เลยกลุ้มใจมากค่ะ

พอจะแนะนำเป็นแนวทางอย่างใดได้บ้างค่ะ อย่างนี้มีสิทธิ์จะได้ที่ดินคืนมั๊ยอ่ะค่ะ ขอบคุณนะค่ะ