ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    031827 สิทธิในบุตรmaw3 พฤศจิกายน 2551

    คำถาม
    สิทธิในบุตร

    ดิฉันแต่งงานกับอดีตสามีมาได้ 7 ปี มีลูก 2 คน แล้วดิฉันจับได้ว่าเค้ามีภรรยาน้อย ดิฉันจึงขอหย่า แรก ๆ สามีไม่ยอม โดยมีเงื่อนไขว่าถ้ายกลูกให้เค้าดูแลจะยอมหย่าให้ แต่ดิฉันก้อมีข้อแม้เหมือนกันซึ่งตกลงกันด้วยวาจาว่า หากยินยอมให้เป็นผู้มีสิทธิดูแลบุตร ดิฉันต้องมีสิทธิในการดูแล พูดคุย ไปเที่ยว หรือรับมาค้างคืนได้ตามปกติ โดยบุตรทั้ง 2 คน อยู่ในความดูแลของปู่กับย่า (เป็นเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้) ดิฉันจึงหย่าพร้อมกับลงในใบหย่าให้เค้าเป็นผู้มีสิทธิดูแลบุตร ดิฉันหย่าเมื่อ 2 ปีที่แล้ว (2549) บุตรอยู่กับปู่กับย่ามาตลอด และดิฉันได้บอกกับพ่อแม่ (ฝ่ายชา) ว่าดิฉันยังไม่สามารถส่งเสียค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงบุตรได้ เพราะดิฉันกำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาโท แต่หากเรียนจบแล้วจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ ซึ่งทางพ่อแม่กล่าวว่าไม่เป็นไร แต่ดิฉันก้อเบิกค่าเล่าเรียน และค่ารักษาพยาบาลให้ (ดิฉันเป็นข้าราชการ) ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาดิฉันจะไปค้างกับลูกทุกวันศุกร์ และโทรศัพท์ไปพูดคุยด้วยบ่อยครั้ง และบางครั้งก็รับมาค้างที่บ้านด้วย แต่ระยะหลัง ๆ พ่อแม่(ฝ่ายชาย) เริ่มจะไม่ค่อยให้พูดคุย หรือเอามาค้าง โดยแรก ๆ ให้อดีตสามีโทรมาบอกดิฉันว่าไม่ต้องไปค้างบ่อย หรือโทรศัพท์ไปบ่อย และอ้างว่าดิฉันไม่มีสิทธิเพราะไม่ได้ส่งเสียหรือรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ดิฉันจึงบอกว่าดิฉันได้แจ้งให้พ่อแม่เค้าทราบแล้ว พอมาระยะหลัง ๆ เมื่อดิฉันโทรศัพท์ไปคุยกับลูก บางครั้งก้ไม่รับสาย (โทรศัพท์มือถือของแม่ฝ่ายชาย) โทรศัพท์บ้านเค้าอ้างว่าไม่ได้ต่อสาย จะได้คุยกับลูกก็ต้องโทรไปประมาณ 1-2 วัน เข้าวันที่ 3 ถึงจะได้คุย เพราะเค้าอ้างว่า โทรศัพท์ไม่ได้ติดตัวอยู่ตลอดเวลา แต่ดิฉันโทรไปหลายครั้ง และหลายเวลา แต่ก็จะไม่ค่อยได้คุย  พอดิฉันจะไปรับลูกมาค้างด้วย เค้าก้อจะอ้างว่า เด็ก ๆ มีเรียนพิเศษ และอ้างว่าเวลาเด็กกลับมาอยู่บ้านแล้ว เด็กจะดื้อ ซึ่งดิฉันก็ได้กล่าวไปว่า ดิฉันไม่ได้สอนอะไร เพียงแต่พูดคุยกันตามประสาแม่ลูก (เพราะมีเวลาอยู่ด้วยกันไม่มาก) สำหรับเด็ก ๆ เค้ามักจะพูดกับดิฉันเสมอ ๆ ว่า อยากกลับมาอยุ่กับดิฉัน  แต่บอกพ่อแล้วพ่อไม่ให้มา แล้วปู่กับย่าก้อบอกว่าแม่ไม่มีสิทธิ  สิทธิในการตัดสินใจอยู่ที่พ่อคนเดียว ดิฉันจึงบอกว่าไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็ได้มาอยู่กับแม่ (ซึ่งดิฉันต้องพูดแบบนั้นเพราะไม่อยากให้เด็ก ๆ รู้สึกไม่ดี) และเค้ามักจะพูดเสมอ ๆ ว่า อยู่กับแม่มีความสุขมากกว่า ดิฉันจึงอยากจะเรียนถามว่า

    - พ่อแม่ และอดีตสามี มีสิทธิห้ามหรือกีดกันดิฉันหรือไม่

    - หากอดีตสามีได้มีการยกบุตรให้คนอื่นดูแล ดิฉันมีสิทธิคัดค้านได้หรือไม่

    - หากดิฉันไม่ได้ส่งเสียค่าใช้จ่าย เค้าสามารถที่จะนำไปอ้างในศาลได้หรือไม่

    - หากดิฉันนำเด็ก ๆ มาอยู่ด้วย ต้องฟ้องศาลหรือไม่ และหากไปนำกลับมาอยู่ด้วยเลยเค้าสามารถจะแจ้งจับดิฉันได้หรือไม่

    - หากฟ้องศาล ศาลสามารถถามความสมัครใจของบุตรว่าอยากจะอยู่กับใครแล้วอนุญาตให้อยู่กับฝ่ายนั้น ๆ ได้เลยหรือไม่

    ขอบพระคุณอย่างสูง

    คำตอบ

    - เขาไม่มีสิทธิห้ามหรือกีดกันคุณ

    - มีสิทธิคัดค้านได้ (ถ้าคำว่าคนอื่น หมายถึงคนที่ไม่ใช่ปู่กับย่า)

    - ขึ้นอยู่กับว่าเป็นคดีในศาลเรื่องอะไร ถ้าเป็นคดีเรื่องแย่งการปกครองบุตร การที่คุณไม่อยู่ในฐานะที่จะส่งเสียลูกได้ก็อาจใช้อ้างได้ว่าคุณไม่พร้อม

    - ถ้าจะนำกลับมาอยู่ในความปกครองของคุณ ก็ต้องฟ้องศาล

    - ความสมัครใจของลูก เป็นเพียงเหตุอย่างหนึ่ง ซึ่งศาลคงต้องพิจารณาประกอบกับเหตุอื่น ๆ ที่จะทำให้เด็กมีความมั่นคงและมีความสุข


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    3 พฤศจิกายน 2551