เรียน อ. มีชัย
พ่อเป็นข้าราชการบำนาญ ที่ยังมีตำแหน่งหน้าที่ในหน่วยงานราชการหลังเกษียณ ยอมรับกับการซักถามของแม่ว่าเคยมีสัมพันธ์กับหญิงอื่น แต่อ้างว่าเป็นแบบชั่วคราว ไม่จริงจัง ซึ่งแม่และหนูไม่สามารถเชื่อได้ว่าจริงหรือไม่ และไม่อยากลดตัวไปคอยติดตาม พ่อยอมรับว่าในช่วง 20 ปี่ผ่านมา มีสัมพันธ์กับหญิงมา 3 คน รวมทั้งใช้บริการผู้หญิงตามร้านอาหารด้วย โดยในทุกรณีจะพาผู้หญิงเข้าโรงแรมม่านรูด การกระทำของพ่อเช่นนี้ทำร้ายจิตใจครอบครัวมาก ผิดหวังกับพฤติกรรมที่เคยรู้สึกว่า พ่อเราเป็นที่เคารพนับถือของลูกศิษย์ และข้าราชการมากมาย แต่กลับทำตัวตำช้าด้านมืด โดยไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะเกิดกับครอบครัว
แม่ขอหย่าแต่พ่อไม่ต้องการหย่า และอ้างว่าไม่ได้ติดต่อกับผู้หญิงเหล่านั้นแล้ว แต่แม่ยังยืนกรานต้องการหย่า หนูจึงขอเรียนถามว่า
1. แม่จะใช้คำสารภาพถึงพฤติกรรมที่ผ่านมาของพ่อ เป็นหลักฐานของการฟ้องได้หรือไม่
2. แม่เป็นข้าราชการเช่นกัน แต่รับบำเหน็จมาแล้ว และหนูเองก็เรียนจบทำงานแล้ว แม่จะเรียกค่าเลี้ยงดูสำหรับตัวแม่เองได้หรือไม่
3. แม่ต้องการโอนเงินฝากและบ้านที่มีจำนวนหนึ่งที่อยู่ในชื่อแม่ ซึ่งได้มาระหว่างการสมรส (โดยที่พ่อแทบจะไม่มีส่วนในการสร้างทรัพย์เหล่านั้นเลย) มาให้หนูก่อนการฟ้องหย่า เพื่อที่จะไม่ต้องแบ่งไปให้พ่อ กรณีเช่นนี่เราสามารถทำได้อย่างที่แม่คิดหรือไม่
ขอบพระคุณค่ะ
1. ถ้าเหตุการณ์นั้นเกิดมานานแล้ว ก็อาจเป็นปัญหาได้ แล้วมันเรื่องอะไรที่จู่ ๆ เขาถึงได้มาสารภาพอย่างนั้นเล่า
2. อะไรที่ผ่านไปแล้ว ขืนเอากลับมาคิดอีก บ้านก็คงร้อนเป็นไฟ
3. ถ้าพ่อเขายอมก็คงทำได้ เพราะเป็นของเขาครึ่งหนึ่ง เนื่องจากเป็นสินสมรส