กราบเรียนท่านอาจารย์ ที่เคารพ

            เพื่อให้กระชับ อยากเรียนถามว่าข้าราชการครูที่เคยถูกสอบสวนทางวินัยด้านชู้สาวแล้วและยอมรับว่าจะไม่ปฎิบัติตามข้อร้องเรียนที่ผู้ร้องร้องแล้วนั้น แต่กลับยังคงปฎิบัติอย่างลับอีก และในที่สุดทำให้ครอบครัวผู้ร้องมีผลกระทบและต้องหย่าจากกัน รวมทั้งต่อมาได้ร่วมกันปลอมลายเซนต์ในใบมอบอำนาจเอาเอกสารโฉนดที่ดินคู่สมรสไปค้ำประกันเพื่อขอกู้เงินธนาคารออมสินโครงการพัฒนาชีวิตครู  ตั้งแต่ปี 2547 บัดนี้สามีได้เสียชีวิต และหนี้ทางธนาคารยังคงเหลืออยู่ แสนกว่าบาท และในปี 2548 สามีเจ็บป่วย ไร้สติสัมปรัชชัญญะ และได้รับการรบเร้าในขณะที่ไม่มีสติปกตินี้ให้ไปจดทะเบียนสมรสให้แก่ครูหญิงดังกล่าว

               ต่อมาบุตรชายเสียชีวิตในหน้าที่ราชการทหาร ทำให้สามีตรอมใจและเสียชีวิต อยากกราบเรียนถามท่านอาจารย์ดังนี้คะ

               1    การปลอมลายเซนต์มอบอำนาจนั้น  มีผลอย่างไร ลายมือในใบมอบอำนาจนั้น เป็นการเขียนของครูหญิงคนดังกล่าว ที่พาสามีขอกู้ รวมทั้งในใบขอกู้เงินสหกรณ์ครูต่างๆด้วย และมีหลักฐานเอกสารบ่งชี้

               2     ข้าราชการครูคนนั้น ทำให้เกิดความสั่นคลอนต่อบุตรและครอบครัวคนอื่นอย่างจงใจหรือไม่ นำผลการให้ปากคำจากการสอบสวนมาใช้กับจรรยาบรรณครูได้หรือไม่

                3     ธนาคาออมสินต้องได้รับการใช้หนี้เงินกู้ที่เหลือจากใคร คู่สมรสใหม่ ซึ่งรับเงิน ชพค และเงินครูอื่นๆหรือไม่ เพราะเขาว่าเขาภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย 

                 4    ในนามเจ้าของโฉนดที่ดิน สามีเสียชีวิตแล้ว ข้าพเจ้าขอโฉนดคืนได้หรือไม่ โดยไม่เอาเรื่อง เพียงขอให้ภรรยาใหม่ใช้หนี้สินที่กู้นั้น

1. จะไปมีผลอะไรนอกจากเป็นการปลอมเอกสารน่ะซี

2. แล้วจะไปรู้ได้อย่างไรล่ะว่าเขาจงใจหรือไม่ ถามพิกลจริง

3. ใครเป็นเจ้าของที่ดินที่ถูกนำไปจำนอง คนนั้นก็ต้องไปชำระหนี้ เว้นแต่จะได้ความว่าตัวไม่ได้เอาไปจำนองแต่มีคนปลอมลายมือชื่อ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

4. ก็ถ้าโฉนดนั้นเป็นของคุณ คุณก็มีสิทธิเอาคืนซิ