สวัสดีครับอาจารย์ก่อนอื่นผมต้องขอบคุณอาจารย์ที่กรุณาช่วยตอบข้อสงสัยของผมนะครับ แต่ผมต้องขอรบกวนอาจารย์อีกครั้งนะครับ โดยในกรณีของผมสำนักงานสรรพากรได้เดินทางมาที่ อบต.พร้อมหนังสือขออายัดและหนังสือบันทึกสำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกาที่ 265/2550 โดยเนื้อหาในหนังสือดังกล่าวมีหน่วยงานแห่งหนึ่งได้ขอหารือในกรณีถูกสำนักงานสรรพากรขออายัดทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันสัญญาเช่นเดียวกับกรณี อบต.ซึ่งผลการพิจราณาสรุปได้ความว่าสำนักงานสรรพากรหรือกรมสรรพกรมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ภาษีอากรซึ่งเป็นหนี้บุริมสิทธิสามัญเหนือทรัพย์สินทั้งหมดของลูกหนี้ ส่วนหน่วยงานที่ขอหารือมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ตามสัญญามีเพียงบุคคลสิทธิเท่านั้น ดังนั้นกรมสรรพากรจึงมีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้จากเงินหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญาในลำดับก่อนหน่วยงานดังกล่าว ดังนั้นในกรณีของ อบต.ก็คงต้องปฏิบัติตามคำสั่งอายัดจะโต้แย้งหรือคัดค้านคำสั่งอายัดไม่ได้ ซึ่งปัจจุบัน อบต.ยังไม่ได้นำส่งทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันดังกล่าว และได้เรียก หจก.มาเพื่อให้นำเงินมาวางประกันแทนหลักประกันเดิมตามที่อาจานย์แนะนำ แต่ปรากฏว่า หจก.อ้างว่าขณะนี้ไม่มีทรัพย์สินใดที่จะนำมาวางประกันได้ อีกทั้งไม่มีบุคคลใดที่จะสามารถนำมาเป็นผู้ค้ำแทนได้อีก ดังนั้นกระผมจึงใคร่ขอคำแนะนำจากอาจารย์อีกครั้งหนึ่งครับว่าควรจะดำเนินการกับ หจก.รายนี้อย่างไรดีครับ เพื่อใช้เป็นแนวทางต่อไป ขอบคุณครับ