เรียนอาจารย์มีขัย ฤชุพันธุ์ที่เคารพ

ปี 2543 มีผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรี รวม 3 คน ต่อมาก่อนถึงวันเลือกตั้งได้ขอถอนการสมัคร 2 คน คงเหลือผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรี 1 คน ซึ่งไม่เกินจำนวนนายกเทศมนตรีที่จะพึงมีได้ในเขตเทศบาล  จึงประกาศให้ได้รับการเลือกตั้งโดยไม่ต้องมีการลงคะแนนเลือกตั้ง จีงทำให้ราษฎรไม่มีส่วนร่วมในการปกครองตนเองตามเจตนารมณ์ของราษฎรในท้องถิ่นโดยตรง ตามเหตุผลในการประกาศใช้กฎหมาย

ปี 2547 มีผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรี 1 คน ซึ่งเท่ากับจำนวนนายกเทศมนตรีที่จะพึงมีได้ในเขตเทศบาล กฎหมายกำหนดให้ผู้สมัครจะได้รับเลือกตั้งก็ต่อเมื่อได้คะแนนเลือกตั้งไม่น้อยกว่าร้อยละสิบของจำนวนผู้มีสินธิเลือกตั้ง แม้จะมีผู้สมัครรายเดียวราษฎรก็ต้องออกมาลงคะแนนเลือกตั้ง ปรากฏว่าผู้สมัครได้รับคะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละสิบ ก.ก.ต.ประกาศรับรองผล

การดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเกินสองวาระติดต่อกันมิได้นั้น เจตนารมณ์ของกฎหมายห้ามเฉพาะผู้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนเท่านั้น

ดังนั้น 1.การดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีซึ่งราษฎรมิได้ออกเสียงลงคะแนนโดยตรงและลับ จึงไม่น่าจะเข้าหลักเกณฑ์และองค์ประกอบที่ว่าเป็นนายกเทศมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน แม้ว่าจะมีการจัดให้มีการเลือกตั้งแบบใดก็ตาม

        2.การเลือกตั้ง คือ การเลือกสรรบุคคลให้เป็นผู้แทนหรือให้ดำรงตำแหน่งด้วยการออกเสียงลงคะแนน กรณีไม่มีการออกเสียงลงคะแนนจึงไม่น่าจะถือว่ามีการเลือกตั้ง แม้ว่าจะมีผู้สมัครรายเดียวหรือมีการจัดการให้มีการเลือกตั้งแบบใดก็ตาม

อาจารย์เห็นตรงหรือเห็นต่างอย่างไรค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สุดาพร