ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    031305 ฟ้องหย่าและสินสมรส ( ทุกข์ใจมาก)แชมพู3 ตุลาคม 2551

    คำถาม
    ฟ้องหย่าและสินสมรส ( ทุกข์ใจมาก)

    เรียน อาจารย์มีชัยที่เคารพ

               ดิฉันอายุ 40 ปี รับราชการครู  แยกกันอยู่กับสามี อาชีพรับจ้าง มา 4 ปี ดิฉันพยายามขอหย่ามาตลอด แต่เขาไม่ยอมหย่า มีข้ออ้างตลอด เร็วๆนี้หลอกให้ดิฉันโอนเงินให้เป็นค่ารถเดินทาง แล้วเขาจะมาหย่าให้ แต่ก็ไม่มา ปิดโทรศัพท์ไม่ยอมรับสาย นิสัยส่วนตัวชอบเล่นการพนัน ดื่มเหล้า นิสัยก้าวร้าว  จุกจิก ชอบด่าดิฉันเวลาเมา  ออกจะมีลักษณะไปทางผู้หญิง  ดิฉันทนอยู่เพื่อลูกมาตลอด 11 ปี จนแยกอยู่เมื่อปี 2547  ก่อนหน้านี้ ผ่อนบ้านด้วยกัน จนเมื่อแยกอยู่ เขาให้ขายบ้าน ดิฉันเสียดายเลยออกเงินซื้อไว้เองแต่ทำทีให้ญาติซื้อไว้ เขาแบ่งเงินไปครึ่งนึง โดยที่บ้านที่ผ่อนยังเป็นชื่อของดิฉันอยู่ เพราะดิฉันผ่อนผ่านโครงการของกบข./ธ.อาคารสงเคราะห์หักเงินเดือนทุกเดือน เขาไม่รู้และได้ย้ายทะเบียนบ้านออกจากการเป็นเจ้าบ้าน เหลือชื่อดิฉันและลูกอยู่ในทะเบียนบ้าน  ดิฉันขอถามว่า
      1. ถ้าหย่ากัน ดิฉันควรทำอย่างไรเรื่องบ้านเพราะตั้งแต่แยกกันดิฉันถูกหักเงินเดือนผ่อนบ้านทุกเดือนและเขาแบ่งเงินไปแล้วครึ่งนึง (มีพยานบุคคล) ตอนนี้ก็กำลังผ่อนอยู่

      2. ดิฉันสามารถฟ้องหย่าโดยอ้างเหตุว่าสมัครใจแยกกันอยู่เกินสามปีได้ไหม เพราะเขาพยามยามให้ดิฉับกลับไปอยู่กับเขาแต่ดิฉันเลือกที่จะออกมาอยู่ที่บ้านพักครูด้วยความสบายใจและไม่กลับไปหาเขา ตัวเขาอยู่ที่บ้านที่ผ่อนอยู่(ในขณะนั้น) ส่วนดิฉันอยู่อีกจังหวัดนึงและอยู่บ้านพักครู ปัจจุบันอยู่กับลูกที่บ้านพักครู และก็ไม่มีใคร เบื่อชีวิตครอบครัว ทั้งที่มีคนสนใจแต่ไม่อยากยุ่งอีก เพราะทุกวันนี้ดิฉันต้องรับผิดชอบส่งเสียลูกเรียนและหนี้สินสหกรณ์คนเดียว เขาไม่เคยช่วยเหลือเลย บางครั้งยังอ้อนวอนให้ลูกมาขอเงินจากดิฉันอีก ลูกสงสารเขามาก เพราะเขาออกจากงานบ้าง โดนไล่ออกบ้าง เพราะกินเหล้ามากแล้วป่วยเข้ารพ. แต่ก็ยังเห็นแก่ตัว ข้าวของในบ้าน ตอนย้ายก็ขนไปหมด ไม่แบ่งให้ดิฉันเลย
    3. ถ้าฟ้องโดยใช้เหตุดังกล่าวแล้วเขาอ้างว่าเขาไม่สมัครใจ ควรทำอย่างไร และจะฟ้องโดยใช้เหตุสามีไม่ให้
    ความช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดู ตามสมควร ได้ไหมคะเพราะดิฉันต้องรับผิดชอบลูกและหนี้สินสหกรณ์คนเดียว เขาไม่เคยช่วยเหลือเลย ส่วนตัวเขาไม่มีเมียใหม่แต่พฤติกรรมออกไปทางชอบผู้ชายด้วยกัน สังเกตุจากอดีตและปัจจุบันว่าเพื่อนของเขาส่วนใหญ่จะเป็นกระเทย

    4. ดิฉันควรเตรียมหลักฐานอะไรบ้างในการฟ้องหย่า และใช้เวลานานเท่าไหร่ ในกรณีที่เขาไม่มาศาลหรือเขาไม่จ้างทนายมาสู้ที่ศาล

    5. ปัจจุบันเขาทำงานที่กรุงเทพฯ ดิฉันอยู่ที่ภาคใต้ถ้าฟ้องหย่าจะต้องมีที่อยู่ปัจจุบันหรือไม่ ดิฉันมีที่อยู่ตามบัตรประชาชนเท่านั้น

    6. กรณีที่ดิฉันจะผ่อนรถยนต์ในขณะนี้ ถือว่าเป็นสินสมรสหรือไม่ และถ้าผ่อนหมดและโอนเป็นชื่อดิฉันหลังหย่าแล้ว เขาจะมีสิทธิ์ในรถคันนี้อีกหรือไม่

    7. ดิฉันจะพึ่งทนายอาสาในการฟ้อง  ดิฉันจะเสียใช้จ่ายประมาณเท่าใด

    ขอให้บุญกุศลที่อาจารย์ได้ช่วยเหลือผู้ที่มีทุกข์ใจอย่างดิฉัน คุ้มครองและส่งผลให้อาจารย์มีสุขภาพที่แข็งแรงตลอดไปนะคะ

    คำตอบ

    1. สิ่งที่คุณทำนั้น เป็นการไม่รู้กฎหมาย แล้วนึกว่าจะหลีกเลี่ยงกฎหมายได้  เพราะถ้าว่ากันตามสิ่งที่ปรากฏและตามข้อกฎหมาย เงินที่คุณนำไปซื้อ ก็เป็นสินสมรส เมื่อซื้อมาแล้วบ้านนั้นก็ยังเป็นสินสมรสเขาก็มีสิทธิครึ่งหนึ่งอยู่นั่นเอง  ดังนั้น เมื่อเดินหน้าไปในทางนี้แล้ว ก็ต้องระมัดระวังอย่าให้ความจริงปรากฏขึ้นก็แล้วกันว่าคุณเป็นคนซื้อ

    2. คุณอาจฟ้องหย่าได้ด้วยพฤติกรรมของเขาที่กระทำต่อคุณ แต่ไม่ใช่ด้วยเหตุที่แยกกันอยู่ เพราะตามข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นการแยกกันอยู่โดยสมัครใจ (เขาไม่สมัครใจ)

    3.-5  ควรหาทนายความ ถ้าพอมีเงินบ้างก็อย่าไปอาศัยทนายอาสาเลย จ้างทนายความดำเนินการให้จะดีกว่า เขาจะตอบคำถามที่ถามมาได้

     


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    3 ตุลาคม 2551