ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    030943 กำลังสับสนค่ะnidtha16 กันยายน 2551

    คำถาม
    กำลังสับสนค่ะ

    ดิฉันกับแฟน (ยังไม่ได้แต่งงาน แฟนมีลูกติด 1 คน อายุ 5 ขวบ) ตกลงกันว่าจะผ่อนบ้านเอื้ออาทรที่ต่างจังหวัด (แฟนอยู่ ตจว. ส่วนดิฉันอยู่กรุงเทพ) ตอนนี้ยื่นจองไปแล้ว 8000 บาท กำลังรอผลการกู้จากธนาคารอยู่ว่าจะผ่านหรือเปล่า

    เนื่องจากแฟนเงินเดือนน้อย (5000 บาท) เขาก็เลยกลัวว่าจะกู้ไม่ผ่าน จึงคิดว่าจะให้ญาติมาเป็นผู้กู้ร่วม แต่ดิฉันเป็นคนผ่อนบ้าน โดยที่ญาติไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ในสัญญามีชื่อญาติคนนี้เป็นผู้รับมรดกบ้านหากว่าแฟนดิฉันเสียชีวิต

    แฟนบอกว่าที่ทำแบบนี้เพราะคิดว่าถ้าหากเลิกกับดิฉันไปหรือถ้าดิฉันตกงานหรือไม่มีเงินส่ง ลำพังตัวเขาก็คงไม่มีปัญญาผ่อนบ้านเอง และมั่นใจว่าญาติคนนี้จะรับผิดชอบรักษาบ้านหลังนี้ไว้ให้เขาได้โดยไม่คิดจะเอาไปเป็นของตัวเองแน่นอน เพราะญาติคนนี้เป็นคนมีฐานะและคอยช่วยเหลือเรื่องการเงินแฟนมาตลอด

    ส่วนตัวดิฉันรู้สึกกลัวว่าจะต้องเสียเงินไปโดยไม่มีหลักประกันความมั่นใจเลยว่าจะได้มีกรรมสิทธิในบ้านหลังนี้ ดิฉันจึงบอกกับเขาว่าให้เอาชื่อดิฉันเป็นผู้กู้ร่วมแทนญาติคนนั้น (ดิฉันยังไม่รู้จักญาติคนนั้นของเขาด้วย) ซึ่งเขาก็ไม่ได้คัดค้านอะไร

    แต่เมื่อมาคิดถึงการเป็นหนี้ระยะยาว (ผ่อนเดือนละ 2400 บาท 30 ปี) และปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตหากต้องเลิกรากันไปหรือตัวดิฉันเองไม่มีเงินผ่อน เลยทำให้คิดว่าดิฉันไม่ควรจะเข้าไปเป็นผู้กู้ร่วม เพราะจะกลายเป็นภาระหนี้ผูกพัน

    ตอนนี้เลยสับสนค่ะ ว่าควรจะทำยังไงดีคะ ปล่อยให้แฟนไปจัดการตามที่เขาคิดแต่แรก แล้วเราก็ช่วยเขาผ่อนไปก่อนถ้าต้องเลิกกันก็ถือซะว่าทำบุญเหรอคะ แล้วถ้าเกิดไม่เลิกกันแล้วดิฉันผ่อนบ้านจนหมดหรือหาเงินมาโป๊ะซื้อบ้านได้ก่อน 30 ปี ดิฉันจะทำยังไงเพื่อป้องกันไม่ให้ญาติคนนั้นเข้ามามีกรรมสิทธิในบ้านหลังนี้

    แล้วจำเป็นมั๊ยคะว่าต้องใส่ชื่อผู้รับมรดก ถ้าแฟนเสียชีวิตไปก่อน ดิฉันก็คงไม่เอาบ้านไว้หรอกค่ะ (ถ้าดิฉันเป็นคนผ่อนหมด) แต่ก็ไม่อยากให้ญาติคนนั้นได้ไป จะสามารถเปลี่ยนชื่อผู้รับมรดกเป็นชื่อคนอื่นได้หรือเปล่า เช่น พ่อ แม่ ลูก และน้องชายของแฟน แล้วถ้าไม่ใส่ชื่อผู้รับมรดก แล้วญาติคนนั้นเป็นคนผ่อนต่อ ญาติก็มีสิทธิในบ้านอยู่แล้วไม่ใช่หรือคะ เพราะเป็นผู้กู้ร่วม (คิดเอาเอง)

    ยังไงช่วยตอบให้หน่อยนะคะ กำลังสับสนจริงๆ ค่ะ

    คำตอบ

    ถ้าคุณซื้อบ้านโดยมีแฟนและญาติของเขาเป็นผู้กู้ร่วม แต่คุณเป็นคนส่งเงินนั้น ผลก็คือ บ้านนั้นเป็นของแฟนร่วมกับญาติของเขา โดยคุณไม่ได้เป็นเจ้าของ แต่กลับเป็นคนส่งเงิน

    แต่ถ้าคุณซื้อบ้านโดยมีแฟนคุณกับตัวคุณเป็นผู้กู้ร่วม โดยคุณเป็นคนส่งเงิน ผลก็คือ คุณกับแฟนเป็นเจ้าของบ้านร่วมกัน แต่คุณเป็นคนส่งเงินคนเดียว

    วิธีที่สองจึงน่าจะเป็นประโยชน์กับคุณมากกว่า  สำหรับการป้องกันในกรณีที่คุณกับแฟนเลิกกัน ก็อาจทำหนังสือให้มีลักษณะว่า การที่แฟนคุณมีชื่ออยู่ในการกู้ร่วมนั้น เป็นการกระทำในฐานะตัวแทนของคุณ และบ้านที่ซื้อที่มีชื่อของเขา ก็เป็นการมีชื่อในฐานะตัวแทนของคุณ  เมื่อทำอย่างนี้แล้ว เมื่อเกิดเลิกกันคุณก็ยังอาศัยหนังสือตัวแทนนี้เป็นหลักฐานเพื่อแสดงว่าบ้านนั้นเป็นของคุณคนเดียว


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    16 กันยายน 2551