กำลังสับสนค่ะ
ดิฉันกับแฟน (ยังไม่ได้แต่งงาน แฟนมีลูกติด 1 คน อายุ 5 ขวบ) ตกลงกันว่าจะผ่อนบ้านเอื้ออาทรที่ต่างจังหวัด (แฟนอยู่ ตจว. ส่วนดิฉันอยู่กรุงเทพ) ตอนนี้ยื่นจองไปแล้ว 8000 บาท กำลังรอผลการกู้จากธนาคารอยู่ว่าจะผ่านหรือเปล่า
เนื่องจากแฟนเงินเดือนน้อย (5000 บาท) เขาก็เลยกลัวว่าจะกู้ไม่ผ่าน จึงคิดว่าจะให้ญาติมาเป็นผู้กู้ร่วม แต่ดิฉันเป็นคนผ่อนบ้าน โดยที่ญาติไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ในสัญญามีชื่อญาติคนนี้เป็นผู้รับมรดกบ้านหากว่าแฟนดิฉันเสียชีวิต
แฟนบอกว่าที่ทำแบบนี้เพราะคิดว่าถ้าหากเลิกกับดิฉันไปหรือถ้าดิฉันตกงานหรือไม่มีเงินส่ง ลำพังตัวเขาก็คงไม่มีปัญญาผ่อนบ้านเอง และมั่นใจว่าญาติคนนี้จะรับผิดชอบรักษาบ้านหลังนี้ไว้ให้เขาได้โดยไม่คิดจะเอาไปเป็นของตัวเองแน่นอน เพราะญาติคนนี้เป็นคนมีฐานะและคอยช่วยเหลือเรื่องการเงินแฟนมาตลอด
ส่วนตัวดิฉันรู้สึกกลัวว่าจะต้องเสียเงินไปโดยไม่มีหลักประกันความมั่นใจเลยว่าจะได้มีกรรมสิทธิในบ้านหลังนี้ ดิฉันจึงบอกกับเขาว่าให้เอาชื่อดิฉันเป็นผู้กู้ร่วมแทนญาติคนนั้น (ดิฉันยังไม่รู้จักญาติคนนั้นของเขาด้วย) ซึ่งเขาก็ไม่ได้คัดค้านอะไร
แต่เมื่อมาคิดถึงการเป็นหนี้ระยะยาว (ผ่อนเดือนละ 2400 บาท 30 ปี) และปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตหากต้องเลิกรากันไปหรือตัวดิฉันเองไม่มีเงินผ่อน เลยทำให้คิดว่าดิฉันไม่ควรจะเข้าไปเป็นผู้กู้ร่วม เพราะจะกลายเป็นภาระหนี้ผูกพัน
ตอนนี้เลยสับสนค่ะ ว่าควรจะทำยังไงดีคะ ปล่อยให้แฟนไปจัดการตามที่เขาคิดแต่แรก แล้วเราก็ช่วยเขาผ่อนไปก่อนถ้าต้องเลิกกันก็ถือซะว่าทำบุญเหรอคะ แล้วถ้าเกิดไม่เลิกกันแล้วดิฉันผ่อนบ้านจนหมดหรือหาเงินมาโป๊ะซื้อบ้านได้ก่อน 30 ปี ดิฉันจะทำยังไงเพื่อป้องกันไม่ให้ญาติคนนั้นเข้ามามีกรรมสิทธิในบ้านหลังนี้
แล้วจำเป็นมั๊ยคะว่าต้องใส่ชื่อผู้รับมรดก ถ้าแฟนเสียชีวิตไปก่อน ดิฉันก็คงไม่เอาบ้านไว้หรอกค่ะ (ถ้าดิฉันเป็นคนผ่อนหมด) แต่ก็ไม่อยากให้ญาติคนนั้นได้ไป จะสามารถเปลี่ยนชื่อผู้รับมรดกเป็นชื่อคนอื่นได้หรือเปล่า เช่น พ่อ แม่ ลูก และน้องชายของแฟน แล้วถ้าไม่ใส่ชื่อผู้รับมรดก แล้วญาติคนนั้นเป็นคนผ่อนต่อ ญาติก็มีสิทธิในบ้านอยู่แล้วไม่ใช่หรือคะ เพราะเป็นผู้กู้ร่วม (คิดเอาเอง)
ยังไงช่วยตอบให้หน่อยนะคะ กำลังสับสนจริงๆ ค่ะ |