ขอเรียนถามต่อเนื่องจากความเดิมนะค๊ะ

เรียนถามคุณมีชัย ที่เคารพนับถือ ปัจจุบันเป็นหนี้บัตรเครดิตอยู่ 4 ธนาคาร รวมทุกบัตรเงินที่ค้างชำระอยู่ที่ประมาณ 400,000 บาท ค่ะ โดยปกติก็จะพยายามชำระให้ได้ตามยอดขั้นต่ำที่10%เรื่อยมาโดยที่นำเงินจากวงเงินของบัตรที่มีวงเงินเหลืออยู่ทั้งหมดมาชำระค่ะ ปัจจุบันตัวเองไม่มีรายได้อะไรเลยค่ะ 3 ปีก่อนเปิดร้านอาหารก็เจ๊งไปแล้วค่ะ ตอนนี้ไม่ได้ทำงานเนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ ยอดหนี้ต่อบัตรก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเพราะว่าดิฉันต้องกดเงินสดมาจ่ายขั้นต่ำค่ะ ดิฉันอยากถามคุณมีชัย ดังนี้ ค่ะ 1.วงเงินที่เหลืออยู่กับบัตรทุกใบมีประมาณ 250,000 บาท ดิฉันอยากนำเงินจำนวนนี้ออกมาเป็นทุนก้อนสุดท้ายเพื่อเปิดร้านขายอาหารตามสั่งตามข้างทาง แล้วหลังจากนั้นดิฉันจะตัดสินใจไม่ชำระหนี้ทางธนาคารโดยยินยอมให้ทางบริษัทบัตรติดตามทวงถาม และ ดำเนินคดีตามขั้นตอนค่ะ อย่างนี้จะเจอคดีแพ่งหรือคดีอาญา จะเจอคุกไหมค่ะ 2.ดิฉันไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริงๆค่ะ ไม่มีปัญญาที่จะหาเงินด้วยวิธีอื่นใดอีกแล้วค่ะ ทำอย่างนี้จะติดคุกไหมค่ะ 3.ปัจจุบันดิฉันมีที่ดิน นส3ก.อยู่หนึ่งแปลงเนื้อที่ไม่ทราบค่ะ ไม่ได้ซื้อเองค่ะ คุณพ่อออกเงินซื้อ แต่มาใช้ชื่อดิฉันค่ะ ถ้าจะต้องทำการเปลี่ยนชื่อเป็นชื่อคุณแม่จะมีผลอะไรย้อนหลังมั้ยค๊ะ ขอรบกวนท่านอาจารย์มีชัย เพียงเท่านี้ก่อนค๊ะ อย่าถือสาคนที่กำลังสับสนในชีวิตเลยนะค๊ะ ที่เรียงลำดับคำบอกเล่า และคำถามได้ไม่สั้นและกระชับค๊ะ

คำตอบ

เรียน คุณอนงค์นุช 1.-2. เป็นเรื่องทางแพ่ง และในที่สุดจะนำไปสู่การล้มละลาย เพราะเมื่อผิดนัดไม่ชำระหนี้ ดอกเบี้ยก็จะเพิ่มอัตราขึ้น ถึงประมาณร้อยละ ๒๐ ต่อปี 3. การดำเนินการตาม ข้อ 1. น่ะเป็นเรื่องทางแพ่ง แต่ถ้าเมื่อไรทำตามข้อ 3 นี้ ก็เสี่ยงต่อความผิดทางคดีอาญาฐานโกงเจ้าหนี้ ต้องระมัดระวังให้ดี มีชัย ฤชุพันธุ์ 15 กันยายน 2551

ขอถามเพิ่มเติมดังนี้ค่ะ

1.ควรหรือไม่ที่จะไปนำเงินส่วนที่ยังมีในแต่ละบัตรออกมาเพื่อเป็นทุนรอนทำมาหากินให้กับชีวิตที่หมดหนทางแล้ว ประมาณสามแสนบาทที่พอจะใช้ได้อีก อาจจะพอหาเงินช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้านได้บ้าง ปัจจุบันดิฉันอาศัยบ้านพี่สาวค่ะ คุณแม่กับพี่สาวเปิดร้านขายอาหารตามสั่งอยู่หน้าบ้านค่ะ ดิฉันเลยพอจะมีที่ให้ได้กิน แต่ดิฉันทุกข์ใจค่ะที่อายุขนาดนี้ยังไม่มีปัญญาดูแลตัวเองได้ต้องมาพึ่งแม่ที่แก่ ละอายใจจริงๆค่ะ

2.ในข้อ1หากอาจารย์ไม่เห็นด้วยเนื่องจากเหตุผลและจรรยาบรรของนักกฏหมายที่จะแนะนำให้ทำ แต่ในชีวิตที่ดิฉันเหลืออยู่ก็คงไม่มีเงินไปชำระเจ้าหนี้ค่ะ  จึงยากจะตัดสินใจที่จะนำเงินมาลงทุนเลี้ยงชีพหารายได้ระหว่างนี้ที่ยังพอมีเรี่ยวแรงทำงานได้บ้าง ตอนนี้ดิฉันอายุ 42 ปี( ดิฉันหย่าขาดกับสามีมาสิบกว่าปีแล้วค่ะ เพราะสุขภาพไม่ดีให้ความสุขเค้าไม่ได้ตามที่เค้าต้องการ เพราะดิฉันเป็นโรคหอบค่ะ ทำงานหนักก็ไม่ได้)

3.ถึงแม้ว่าจะเป็นหนี้เพียง 5 หมื่น ดิฉันก็ไม่มีปัญญาส่งแล้วค่ะแม้จะประนอมหนี้ก็คงส่งได้ไม่พอตัดดอกเบี้ย หนี้ก็คงจะต้องค้างไปตลอด หรือจนกระทั่ง เจ้าหนี้เจ้าของบัตรก็ต้องฟ้องร้องดิฉันอยู่ดี ทางที่ดีที่สุดตอนนี้ดิฉันควรจะเอาเงินส่วนที่ยังเหลืออยู่ออกมา หรือฆ่าตัวตายดีค๊ะ เพราะหาทางออกไม่ได้จริงๆ ทุกคนในบ้านต่างก็ต้องมีภาระที่จะต้องรับผิดชอบตัวเองกันทั้งนั้น ดิฉันไม่มีที่พึ่ง และก็ไม่อยากให้คุณพ่อ และ คุณแม่ต้องมารับรู้ความล้มเหลวในชีวิตตัวเองเลยค่ะ

4.ที่ดินที่ว่าดิฉันควรทำการขายเพื่อเปลี่ยนชื่อที่สลักใน นส 3ก.จะได้ไหมค๊ะ เพราะถ้าเค้าจะมายึดไป คงไม่ยุติธรรมกับคุณพ่อที่เป็นผู้ออกเงินซื้อค่ะ ท่านคงตรอมใจหนักแน่ๆ

ช่วยตอบให้อีกสักครั้งนะค๊ะ จะเป็นครั้งสุดท้ายค่ะที่ดิฉันจะรบกวนท่านอาจารย์มีชัย ค่ะ ขอความสุขความเจริญและขอให้ท่านอาจารย์สุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์มีอายุยืนยาว เป็นที่พึ่งให้กับผู้มีปัญหา ขาดที่พึ่ง และ ที่ปรึกษา ไปนานๆนะค๊ะ ทำบุญแก่ผู้สิ้นไร้ไม้ตอกนะค๊ะ