ดิฉันอยู่ในหมู่บ้านเสนาวิลล่ามา 12 ปี บริเวณหน้าบ้านดิฉันมีทางสาธารณะ กว้าง 15 เมตร มีบ้านตรงกันข้าม 4 หลังปล่อยทิ้งร้าง ธนาคารฟ้อง 4 หลังแล้วยึดไปขายทอดตลาดโดยกรมบังคับคดี บ้าน 4 หลังทำกำแพงบ้านไว้ไม่เต็มเนื้อที่โดยเว้นที่หน้าบ้านไว้กว้าง 4 เมตรสำหรับใช้เป็นทางสำหรับบ้าน 4 หลัง พวกดิฉันมีทางสาธารณะใช้เข้าออกทุกหลังไม่ได้ใช้ทางของบ้านทั้ง 4 หลัง
เมื่อปี 2549 มีนายสุพจน์ ไปประมูลบ้านมาจากธนาคาร นายสุพจน์ซื้อบ้านพร้อมที่ดินในโฉนดเดียวกันเนื้อที่ 196 ตารางวา แล้วปรับปรุงบ้านและขอแบ่งแยกโฉนดเป็น 4 แปลงตามจำนวนบ้านที่มีอยู่เพื่อจำหน่ายต่อ ในขณะที่แบ่งแยกโฉนด อำเภอมายืนเขตทางสาธารณะประโยชน์ไม่ได้คัดค้านแต่ไม่ได้ลงชื่อข้างเคียงให้ ช่างรังวัดจึงลงหลักหมุดให้ ต่อมาที่ดินสอบถามและส่งเรื่องการแบ่งแยกโฉนดให้อำเภอทราบเป็นเวลา 30 วันอำเภอไม่ตอบหนังสือกลับมาที่ดิน เกินกำหนด 30 วันตามกฎหมายที่ดิน เจ้าพนักงานที่ดินออกโฉนดแบ่งแยกให้นายสุพจน์เป็น 4 โฉนด นายสุพจน์ได้ทำกำแพงบ้านใหม่ให้เต็มเนื้อที่ดินตามโฉนดไม่เกินหลักหมุด
ดิฉันร้องเรียนอำเภอว่านายสุพจน์นำถนนไปออกโฉนด โดนนำชี้ไปในถนนไม่ตรงกับความจริงในปัจจุบันทำรั้วไปในทาง นายสุพจน์ แจ้งอำเภอว่านำชี้ในสภาพปัจจุบันที่ดินกรรมสิทธิ์ไม่ได้รุกล้ำถนนสาธารณะ และโฉนดทั้ง 4 แปลงก็มีเนื้อที่เท่าเดิม 196 ตารางวาไม่ได้เพิ่มขึ้น ทางสาธารณะยังเหลืออยู่เท่าเดิมไม่ได้ขาดหายไป พร้อมส่งเอกสารที่ดินทางสาธารณะให้อำเภอทราบและวัดถนนสาธารณะแล้วยังมีเท่าเดิมตามเอกสารหลักฐานของที่ดิน
คำถาม 1 ดิฉันจะฟ้องร้องนายสุพจน์ ว่านายสุพจน์นำถนนไปออกโฉนดได้หรือไม่
2 หรือ อบต.และอำเภอ จะต้องฟ้องร้องนายสุพจน์ ว่าทำรั้วไปในทางและนำถนนไปออกโฉนดได้หรือไม่
3 ถ้าฟ้องได้จะเป็นคดีแพ่งหรือคดีอาญา