รบกวนถามท่านมีชัย..ดิฉันได้นำที่ดินไปจำนองธนาคารกรุงเทพเพื่อปลูกบ้านและที่อยู่อาศัยและเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของครอบค๊ะโดยยอดรวมที่ผ่อนทั้งหมดประมาณ 2.9 ล้านบาท ดิฉันได้ผ่อนชำระมาโดยตลอดต่อมาระยะหลังธุรกิจมีปัญหาจึงขาดส่งอยู่บ้างทางธนาคารจึงแจ้งให้มาปรับโครงสร้างหนี้และให้ผ่อนชำระใหม่ดิฉันก็หาเงินมาผ่อนชำระโดยตลอดแต่พอผิดสัญญาซัก 1 -2 วันธนาคารก็จะคิดดอกเบี้ยและค่าปรับเป็นเงินจำนวนมากโดยธนาคารบอกว่าต้องจ่ายดอกและเบี้ยค่าปรับเพื่อจะให้ยอดชำระในครั้งหน้าเป็นปกติ แต่ละครั้งดิฉันต้องหาเงินมาชำระครั้งละ 4-5 หมื่นบาทดิฉันต้องกู้ยืมมา ทำให้มีปัญหาหลายด้านดิฉันเคยคุยกับธนาคารว่าทางดิฉันมีรายได้ผ่อนชำระประมาณเดือนละ 15000 บาททางธนาคารจึงแจ้งกลับมาว่าให้ดิฉันผ่อนเดือนละ 15000 บาท เป็นระยะเวลา1ปี และหาทางขายบ้าน เพื่อจะได้มีเงินมาชำระและอาจจะมีเงินเหลือจากการขายบ้านหลังจากนั้นดิฉันจึงทำเรื่องแบ่งแยกที่ดินเพื่อจะได้แบ่งขายทางธนาคารบอกว่าให้ดำเนินการได้เลยดิฉันได้ทำการดำเนินการแบ่งแยกที่ดินโดยเสียค่าใช้จ่ายทั้งหมดอีกประมาณ 12000 บาทโดยดิฉันได้กู้ยืมมาพอแบ่งแยกที่ดินเสร็จทางกรมที่ดินได้แจ้งไปยังธนาคารเพื่อให้เซ็นรับรองแต่ทางธนาคารกลับบอกมาว่าที่ดินมีปัญหาไม่สามารถเซ็นให้ได้ประจวบกับระยะเวลาที่ทางธนาคารกำหนดก็ไกล้เข้ามา ทางธนาคารส่งคนมาเจรจาให้ทางดิฉันผ่อนชำระต่อไปอีก 6 เดือนเพื่อยืดระยะเวลาแต่ทางดิฉันได้แจ้งกับธนาคารว่าดิฉันไม่สามารถผ่อนต่อไปได้โดยที่ธนาคารไม่มีความหวังอะไรให้ทางดิฉัน ทางธนาคารแจ้งกลับมาว่าจะยึดทันทีถ้าทางเราไม่ผ่อนชำระ ตอนนี้ธนาคารได้ฟ้องร้องและขายทอดตลาดบ้านและที่ดินของดิฉันโดยขายทอดตลาด 3 นัดโดยรอบแรกไม่มีคนประมูลแต่นัดที่ 2 มีคนมาประมูล แต่คนข้างในบอกว่าเป็นคนของธนาคาร(ดิฉันพักอาศัยบ้านนี้ มา 10 ปีโดยยอดการผ่อนชำระทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 1.8 ล้านบาท แต่ทางธนาคารบอกว่าเป็นดอกเบี้ยเป็นส่วนใหญ่ดิฉันเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมไม่มีทางออกจึงอยากจะขอปรึกษาท่านทีชัยให้ช่วยหาทางออกให้ค๊ะ หมดหนทางค๊ะ
เรื่องมาไกลจนเกินกว่าจะหาทางออกใดได้ นอกจากหาเงินมาชำระหนี้ที่เหลือ หรือมิฉะนั้นก็ปล่อยไปเรื่อย ๆ ยอมให้เขาฟ้องล้มละลาย เมื่อล้มละลายแล้ว ๓ ปี หนี้ก็เป็นอันหมดกัน ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่