สวัสดีค่ะ คุณลุงมีชัย

  หนูมีเรื่องสงสัยเรื่องที่ดินของคุณแม่ค่ะ เนื่องจากคุณแม่เรียนหนังสือมาน้อยจึงไม่ค่อยมีความรู้ด้านกฏหมายเท่าไหร่ หนูจึงขอรบกวนถามคำถามหน่อยนะค่ะ

  คือว่าแม่หนูถือครองที่ดินของผู้อื่นในการทำนา ตั้งแต่ปี2545โดยที่โฉนดที่ดิน(นส.4จ) ดังกล่าวอยู่กับคุณแม่ เจ้าของที่ดินตอนแรกตั้งใจจะโอนที่ดินนี้ให้คุณแม่ในการทำมาหากิน แต่ยังมิได้มีการโอนสักที (เพียงแต่มีการตกลงด้วยวาจา) เป็นจำนวน 24 ไร่ที่จังหวัดนครสวรรค์  แต่เมื่อคุณแม่ได้ที่นาผืนนี้มาก็ให้คนอื่นเช่านาผืนนี้แล้วแม่ได้ค่าตอบแทนเป็นค่าเช่านา แต่ต่อมาผู้ที่เช่านาทำไม่ไหว แม่หนูก็เลยทำนาในที่ผืนนี้ต่อแทน แต่ต่อมา เมื่อประมาณเดือนส.ค.51 เจ้าของที่นาผืนนี้เปลี่ยนใจไม่ให้ทำนาในที่แปลงนี้ต่อแล้ว โดยมีจดหมายส่งจากทางทนายของเจ้าของที่ดิน ประมาณว่า จากที่ให้โฉนดไปทำการวัดรางวัดที่ดิน บัดนี้ยังไม่ได้รับโฉนดคืน จึงส่งจดหมายฉบับบนี้มาทวง และต้องย้ายสิ่งปลูกสร้างต่างๆในที่ผืนนี้ออก ภายใน 30 วัน ไม่อย่างนั้นจะดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญา แต่โฉนดผื่นนี้มีการวัดรางวัดตั้งแต่มิ.ย.45 (คุณแม่ถือครองโฉนดที่ดินก่อน แล้วจึงมีการวัดรางวัดใหม่) แต่ในความเป็นจริงแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างที่เค้ากล่าวมา

สิ่งที่หนูอยากช่วยแม่นะค่ะ

1.ถ้าเมื่อในที่สุดคุณแม่ต้องมอบโฉนดที่ดินดังกล่างคืนกับจากเจ้าของที่ดังกล่าว คุณแม่สามารถเรียกร้องค่าความเสียหายในการพัฒนาที่ดิน ตัวอย่างเช่น การขุดสระเพื่อบรรจุน้ำ สำหรับใช้รดนาข้าว หรือการที่มีการใส่ปุ๋ยบำรุงดิน เป็นจำนวนเงินได้ด้วยไหมค่ะ

2.แล้วถ้าเค้าไม่ยอมจ่ายค่าเรียกร้องที่คุณแม่เรียกร้องไป หนูควรทำอย่างไรได้บ้างค่ะ

3.แล้วแม่หนูจะต้องออกจากที่ดิน ผืนนี้เลยหรือเปล่าค่ะ ตอนนี้อีก 2 เดือนถึงจะถึงระยะเวลาของฤดูเก็บเกี่ยวข้าวค่ะ

4.แล้วหนูควรจะติดต่อกับเจ้าของที่ แล้วตกลงกับเค้าในแง่ไหนดีค่ะ

5.ถ้าเกิดกรณีเป็นคดีความโอกาสที่แม่หนูจะชนะคดี มีบ้างหรือเปล่าค่ะ เพราะว่าทุกอย่างที่คุยกับเจ้าของทีดิน ตอนแรกเป็นการตกลงกันด้วยวาจาไม่มีหลักฐานอะไรเลยค่ะ

  ขอบคุณคุณลุงมีชัยมากๆนะค่ะ

ด้วยความเคารพอย่างสูง

เรียน คุณพรพิมล

 ข้อเท็จจริงไม่ได้เล่ามาว่า จู่ ๆ ทำไมเขาถึงคิดจะโอนที่ดินให้ จึงตอบคำถามที่ถามมาไม่ได้   แต่ถ้าเป็นกรณีที่เขาให้ทำนา ก็อาจสันนิษฐานว่าเป็นการเช่านา ซึ่งถ้าเป็นกรณีเช่นนั้นจริง เขาจะให้ออกจากนาโดยทันทีไม่ได้