ติดภาระหนี้สิน
เรียน ท่านมีชัย
ดิฉันได้ทำการกู้เพื่อซื้อบ้านกับ ธ.ออกสิน โดยสามีเก่าเป็นผู้กู้ และดิฉันเป็นผู้กู้ร่วม โดยบ้านหลังนี้ทางพ่อแม่สามีเป็นผู้จ่ายเงินดาวน์ให้
ต่อมาแม่สามีบอกว่าอยากจะได้บ้านไว้เอง โดยจะผ่อนเองเดือนละ 2,800 บาท และจะให้ผู้อื่นเช่า โดยทางสามีรู้กันกับทางบ้านเขาจึงย้ายไปค้าขายที่กทม. และให้ดิฉันพักที่ห้องเช่าที่ชลบุรี ความที่อายุยังน้อยจึงไม่ได้นึกระแวงใดๆ
ปะมาณอีก 2-3 ปี สามีดิฉันได้มี ภรรยาใหม่และขับไล่ดิฉันออกจากบ้านโดยที่อุ้มท้องลูกสาวได้ 4 เดือน และห้ามมิให้ดิฉันได้มีส่วนยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินใดๆของทางบ้านเขาอีกเลย รวมทั้งบ้านหลังนั้นด้วย ทั้งด้วยการข่มขู่ และทุบดี
8 ปีต่อมา เมื่อหมดภาระหนี้สินแล้วดิฉันจึงตัดสินใจผ่อนดาวน์บ้านหลังหนึ่ง โดยทำสัญญา 35,000 บาท ผ่อนดาวน์ไปแล้ว 4 งวดๆ ละ 10,000 บาท รวมทั้งสิ้น 75,000 บาท แต่ตามสัญญาผ่อนดาวน์มีจำนวน 10 งวด แต่เนื่องจากบ้านเสร็จแล้วทางโครงการจึงให้ดิฉันยื่นเรื่องขอกู้ธนาคารเลย เมื่อยื่นเรื่องไปปรากฏว่า ดิฉันติดเครดิตยูโร เนื่องจากบ้านหลังเก่านั้นทางสามี และแม่ของเค้าไม่ได้ผ่อนต่อ จึงถูก ธนาคารยึด ดิฉันรีบติดต่อกลับไปที่ธนาคารออมสิน ซึงได้ให้คำตอบว่า บ้านถูกขายทอดตลาดไปแล้วในราคา 250,000 บาท แต่ยังมีหนี้ที่ต้องชำระอีกประมาณ 350,000 บาท + ดอกเบี้ย 50,000 บาท( ยื่นกู้ที่ 350,000 บาท ) ดิฉันไม่ได้เจตนาหนีหนี้นะคะ แต่ ณ เวลานั้น ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง คิดว่าทางธนาคารคงติดต่อไม่ได้ และทางบ้านสามีก็มีฐานะ และมีอิทธิพลด้วยค่ะ ถ้าไม่เอาชีวิตรอดไว้ก่อนก็ไม่ได้
ดิฉันสอบถามไปว่าดิฉันจะทำอย่างไรได้บ้าง ทางธนาคารแจ้งว่าถ้าอยากจะพ้นภาระหนี้สิน ต้องชำระเงินทั้งหมดในคราวเดียวกัน แต่ถ้าเจรจาขอผ่อนใช้ก็คงยังติดเครดิตอยู่ สอบถามไปทางบ้านสามี และสามีเก่า พวกเขาก็ไม่สนใจอยากรับรู้ด้วย เพราะเค้าไม่ได้เดือดร้อนในการจะซื้อทรัพย์สินใดๆ ถ้าดิฉันมีปัญหาก็ให้ไปใช้หนี้ธนาคารเอาเอง (สามีหย่ากับดิฉัน ตอนที่ลูกสาวอายุได้ 4 ขวบ และได้มีลูกอีก 1 คนกับสามีใหม่แต่ไม่ได้จดทะเบียนค่ะ )
ดิฉันเสียใจ และเครียดมากค่ะ สงสารลูกสาวคนโต เพราะแกอยากมาอยู่กับดิฉันมาก แต่เนื่องจากห้องเช่าคับแคบจึงรับแกมาอยู่ไม่ได้ รู้สึกว่าโลกนี้ไม่ยุติธรรมเลย และเกรงว่าจะต้องเสียเงินค่าผ่อนดาวน์ไปด้วย ขอรบกวนท่านช่วยแนะนำทางออกให้ด้วยค่ะ ว่าดิฉันควรจะทำอย่างไร
|