ปัญหาค่าเช่าบ้านท้องถิ่น
เรียน อาจารย์มีชัยที่เคารพ
ผมมีปัญหาเกี่ยวกับสิทธิในการขอเบิกค่าเช่าบ้านของข้าราชการส่วนท้องถิ่น - พนักงานเทศบาล ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยค่าเช่าบ้านของข้าราชการส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ขอสอบถามท่าน ดังนี้ ครับ
เรื่องเดิม ผมบรรจุรับราชการเทศบาลครั้งแรก ม.ค. 2547 ณ จังหวัดแพร่ จากนั้นได้ โอนย้าย ไปรับราชการในตำแหน่งเดิม จังหวัดนครปฐม พ.ศ. 2549 และได้โอนย้ายกลับ มารับราชการในตำแหน่งเดิม ณ เทศบาลเดิม ใน วันที่ 16 กันยายน 2549 จนถึงปัจจุบัน โดยได้รับภาระเช่าบ้านพักอาศัยและชำระค่าเช่าบ้านเอง เนื่องจากตามระเบียบค่าเช่าบ้านฉบับเดิม กองคลังของเทศบาลแจ้งว่าผมไม่มีสิทธิเบิกค่าเช่าบ้านเนื่องจากย้ายกลับมาที่บรรจุเข้ารับราชการครั้งแรก
ข้อกฎหมาย ต่อมากระทรวงมหาดไทยได้ออกระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยค่าเช่าบ้านของข้าราชการส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ. 2551 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 21 พ.ค. 2551 ทำให้ระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ วันที่ 22 พ.ค. 2551 ตามหนังสือ มท 0808.2 / 6250 ลว. 27 พฤษภาคม 2551 และตามระเบียบดังกล่าว ข้อ 3 วรรค 2 มีความว่า " ความในวรรคหนึ่ง (ว่าด้วยเรื่องสิทธิในการรับค่าเช่าบ้าน) ให้ใช้บังคับแก่ข้าราชการส่วนท้องถิ่นผู้ได้รับคำสั่งให้เดินทางไปประจำสำนักงานในต่างท้องที่ที่เป็นท้องที่เริ่มรับราชการครั้งแรกหรือท้องที่ที่กลับเข้ารับราชการใหม่ด้วย "
ข้อปัญหา ตามระเบียบดังกล่าวผมจึงได้ทำหนังสือขอเบิกค่าเช่าบ้าน เรียนนายกเทศมนตรี โดยประกอบระเบียบดังกล่าวเพื่อพิจารณา ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน 2551 ทางผู้บังคับบัญชาขั้นต้น ของกระผมได้แจ้งว่าไม่สามารถเบิกค่าเช่าบ้านได้ โดยให้เหตุผลดังนี้
1. ในการขอโอนย้ายจาก จ.นครปฐม กลับมายัง เทศบาลเดิม ณ จ.แพร่ กระผมได้แจ้งในคำร้องว่าไม่ขอรับสิทธิในการโอนย้าย ซึ่งตามข้อเท็จจริง คำร้องดังกล่าวเป็นสำเนาคำร้องของเทศบาลจาก จ. นครปฐม ซึ่งในความคำร้องแจ้งว่าหากได้รับอนุญาตให้โอนย้ายจาก เทศบาล จ. นครปฐม มายัง จ.แพร่จะไม่ขอรับสิทธิในการโอนย้าย ซึ่งแสดงเจตนาต่อ จ. นครปฐมว่าจะไม่ขอรับค่าพาหนะ แต่ ทางเทศบาล จ.แพร่ ได้ รับสำเนาคำร้องจาก จ. นครปฐม และบุคลากรของเทศบาล จ.แพร่ได้เกษียณ ในชุดหนังสือส่งจาก จ. นครปฐมว่า " ผู้ขอโอนย้ายไม่ประสงค์รับสิทธิใดๆในการโอนย้าย" โดยทำการรับหนังสือเป็นการภายในและผมไม่ได้ทราบจนกระทั่งทำเรื่องขอเบิกค่าเช่าบ้าน มิ.ย. 2551 แต่จากหนังสือโอนย้ายดังกล่าว ทางผู้บังคับบัญชาแจ้งต่อผมว่า ผมแสดงเจตนาไม่ประสงค์รับสิทธิ์ค่าเช่าบ้าน จากการตีความว่า สิทธิใดๆ จากการเกษียรหนังสือของบุคลากร ในข้อที่ 1 นี้ จึงขอสอบถามท่านอาจารย์ว่าจากหนังสือดังกล่าวทำให้ผมเสียสิทธิในการขอเบิกค่าเช่าบ้านตามระเบียบใหม่หรือไม่
2. ตามระเบียบค่าเช่าบ้านท้องถิ่นฯ ในข้อ 5 สิทธิของข้าราชการส่วนท้องถิ่น ผู้ที่ได้รับคำสั่งให้เดินทางไปประจำสำนักงานในท้องที่ที่เริ่มรับราชการครั้งแรกหรือท้องที่ที่กลับเข้ารับราชการใหม่ ให้เริ่มมีสิทธิการได้รับค่าเช่าบ้านข้าราชการเมื่อได้รับคำสั่งให้เดินทางไปประจำสำนักงานในต่างท้องที่ ตั้งแต่วันที่ระเบียบนี้มีผลใช้บังคับ ตามความในข้อดังกล่าว ทางผู้บังคับบัญชาได้ตีความว่า ผมได้รับคำสั่งโอนย้ายมาก่อนที่ ระเบียบมามีผลใช้บังคับ (ผมโอนย้ายมา 16 ก.ย. 49 ระเบียบประกาศในราชกิจจานุเบกษา 21 พ.ค. 51 ) ผมจึงไม่ได้รับสิทธิในการเบิกค่าเช่าบ้านตามสิทธิในระเบียบดังกล่าว
ข้อปรึกษา จากการตีความของผู้บังคับบัญชาใน 2 กรณ๊ทำให้เรื่องคำร้องขอเบิกค่าเช่าบ้าน ค้างตังแต่วันที่ 6 มิถุนายน 2551 จนถึงปัจจุบัน ผมเดือดร้อนมากเนื่องจากมีภาระเลี้ยงดูมารดา และบุตร และจำเป็นต้องเช่าบ้านพักอาศัยจริง จึงขอความกรุณาท่านอาจารย์ช่วยตีความใน 2 กรณีดังกล่าว ว่าผมเสียสิทธิในการขอรับค่าเช่าบ้านจริง จากการตีความกฎหมายของผู้บังคับบัญชาหรือไม่
และหากผมได้รับสิทธิในการเบิกค่าเช่าบ้านตามระเบียบดังกล่าว ขอสอบถามเพิ่มเติมว่าผมจะสามารถใช้หน่วยงานใดให้การรับรองสิทธิได้ เนื่องจากในปัจจุบันเป็นการตีความภายในองค์กร และกระบวนหนังสือยังไม่สิ้นสุดเนื่องจากนายกเทศมนตรียังไม่ได้ลงความเห็นในหนังสือขอเบิกค่าเช่าบ้าน เพราะพิจารณาว่ายังไม่สามารถวินิจฉัยได้ และเมื่อมีการสอบถามท้องถิ่นจังหวัดก็ไม่ได้ให้ความเห็นในรายละเอียด เพียงแต่ให้พิจารณาตามข้อกฎหมายเท่านั้น
ขอขอบพระคุณท่านอาจารย์มากครับ
|