เรียน อ.มีชัย ที่เคารพคะ

คุณพ่อหนูเพิ่งเสียชีวิตอย่างกะทันหันเมื่อเดือนที่ผ่านมา  คุณพ่อได้จำนองตึกแถวไว้กับธนาคาร ธอส. จำนวนสองล้านกว่าบาทโดยไม่มีผู้ค้ำประกัน   ช่วงที่คุณพ่อซื้อตึกแถวนี้หนูไม่ได้อยู่ใกล้ๆท่านคะจึงได้แต่เดาว่า  มูลค่าทรัพย์สินคงจะมากกว่าเงินที่กู้มา ตึกแถวจึงค้ำประกันตัวเองอยู่  โดยที่คุณพ่อผ่อนส่งธนาคารเดือนละ สองหมื่นกว่าบาท  ซึ่งเป็นมูลค่า  ที่สูงพอสมควรสำหรับหนูคะ

ที่หนูต้องเข้ามาจัดการเรื่องนี้เพราะคุณพ่อได้หย่ากับคุณแม่  และทายาทที่เหลือก็มีหนูกับย่าคะ  โดยที่ตอนนี้หนูกำลังยื่นเป็นผู้จัดการมรดกอยู่  ในระหว่างสองสามเดือนที่รอเป็นผู้จัดการมรดกอยู่นี้หนูไม่มีเงินพอส่ง ธอส. คะ  เลยคิดหาทางต่างๆที่จะจบเรื่องตึกแถวนี้ให้สวยที่สุด ทางแรกที่ทำคือ  พยายามขายคะ  ส่วนหนทางต่อมาจึงอยากเรียนปรึกษาอาจารย์ว่า

1 หากได้เป็นผู้จัดการมรดกแล้ว  หนูไปยื่นกองบังคับคดีเพื่อระงับหนี้และดอกเบี้ยได้รึไม่คะ

2 หนูควรไปเจรจากับทางธนาคารว่าอย่างไรดีคะ  ที่หนูไม่สามารถผ่อนตึกแถวนี้ต่อได้

3 อาจารย์มีคำแนะนำดีๆให้หนูบ้างไหมคะ   นึกว่าสงสารเด็กคนหนึ่งที่ต้องลุกขึ้นมาจัดการปัญหา...ที่ตัวเองเพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรกในชีวิตด้วยเถอะคะ

ขอบพระคุณอาจารย์อยย่างสูงมากๆๆๆๆๆๆๆๆ  คะ

จากเด็กน้อยที่กำลังเรียนรู้วิธีการเป็นผู้ใหญ่

เรียน น้องหมอ

1. ทำไม่ได้หรอก เพราะหนี้ที่มีอยู่ ไม่ว่าฝนจะตกฟ้าจะร้อง ดอกเบี้ยและภาระมันก็มีของมันเรื่อยไป ใครไปสั่งระงับไม่ได้

2. เจรจาก็เขาขาย โดยขายในราคาที่ถูก ๆ ให้เพียงพอคุ้มกับหนี้ที่เหลืออยู่เป็นอย่างน้อย จะได้ไม่มีหนี้สินติดกองมรดก

3. ไม่ต้องทุกข์ใจ เพราะถ้าทำอะไรไม่ได้ อย่างมากธนาคารเขาก็ยึดไปขาย แม้จะยังคงมีหนี้เหลืออยู่ ก็เอาอะไรจากคุณไม่ได้ เว้นแต่จะมีมรดกอื่น ๆ ที่จะตกทอดมายังคุณ ในกรณีเช่นนั้นคุณก็อาจต้องรับผิดในหนี้นั้นแต่ก็ไม่เกินมรดกที่ได้รับมา