ไม่เข้าใจทนาย
เรียน อ.มีชัย
ดิฉันกลับมารบกวนท่านอีกครั้งน่ะค่ะ สืบเนื่องจากปีที่แล้วดิฉันมีปัญหาเกี่ยวกับอดีตสามีชาวออสเตรเลียมาแจ้งความเท็จที่ประเทศไทยเกี่ยวกับการฟ้องหย่าซึ่งตามความเป็นจริงได้มีการหย่าขาดเรียบร้อยไปแล้วโดยศาลออสเตรเลีย แต่อดีตสามีบอกกับทนายที่เขาจ้างว่ายังไม่ได้หย่าและไม่มีบุตรด้วยกัน แต่ความเป็นจริงเรามีบุตรด้วยกัน 1 คน และสิทธิในการเลี้ยงดูบุตรคนละครึ่งแบ่งวันเวลาตามคำสั่งศาล ซึ่งการที่เขาเข้ามาแจ้งความเท็จคงเป็นเจตนาหารายละเอียดข้อมูลหลักทรัพย์ของดิฉันที่เมืองไทยและถ่วงเวลาขึ้นศาลที่ออสเตรเลีย ( เขาและดิฉันยังมีคดีค้างอีกคดีเกี่ยวกับเริ่องการแบ่งทรัพย์สิน) ดิฉันได้เรียนถามท่านและท่านได้แนะนำให้จัดหาทนายที่เมืองไทยและส่งเอกสารมาเพื่อให้เขาจำหน่ายคดี
ดิฉันได้ทำตามคำแนะนำทุกอย่าง โดยส่งใบหย่า และ สิทธิในการเลี้ยงบุตรให้กับทนายที่เมืองไทยพร้อมด้วยค่าใช้จ่ายเบื้องต้นห้าพันบาทตามที่ทนายขอ ในวันขี้นศาลทนายไห้ญาติของดิฉันที่เมืงไทยไปเป็นพยานว่าเขาได้เป็นทนายของดิฉันซึ่งทางญาติของดิฉันได้เล่าว่าทนายของดิฉันได้ถูกศาลตำหนิว่า ไม่จัดการใบแต่งตั้งทนายให้เรียบร้อย แต่ศาลก็อนุโลมให้ทนายดิฉันแก้ต่างให้ดิฉันได้ และดิฉันได้โทรสอบถามทนายที่เมืองไทย ทนายเล่าให้ดิฉันฟังว่าอดีตสามีของดิฉันได้ยอมรับกับทนายของเขาว่ามีการหย่าแล้วและมีบุตรจริง และนัดต่อไปถ้าอดีตสมามีดิฉันไม่มาก็คงไม่มีอะไรแล้ว นั่นคือการติดต่อครั้งสุดท้ายที่ดิฉันกับทนายได้ติดต่อกัน พอผ่านไปได้ประมาณ เดือนกว่าทางญาติของดิฉันโทรมาบอกว่าทนายดิฉันให้โทรกลับ เมื่อดิฉันโทรกลับเขาบอกให้ดิฉันโอนเงินให้อีกห้าพันบาทเพราะจะขึ้นศาลวันจันทร์นี้ศืบพยานโจทย์ ดิฉันแปลกใจและบอกเขาว่าอดีตสามีดิฉันก็ยังอยู่ที่ออสเตรเลียไม่ได้เดินทางไปเมืองไทยซึ่งความเป็นจริงก็เป็นอย่างงั้น ทนายก็บอกว่างั้นก็ไม่เป็นไร และเราก็ขาดการติดต่อกันไปอีกช่วงหนึ่ง และเมื่อ วาน นี้ดิฉันได้โทรคุยกับญาติที่เมืองไทยเขาได้เล่ามาทนายของดิฉันมาถามว่าติดต่อดิฉันได้ไหม(ประมาณ 3 อาทิตย์ที่ทนายไปหาญาติดิฉัน) ดิฉันเลยวางจากญาติและโทรติดต่อทนาย ถามว่ามีเรื่องอะไร เขาเล่าว่าพึ่งขิ้นศาลหลายอาทิตย์ที่ผ่านมาแต่เขาจำไม่ได้ว่าวันไหน(เพราะตอนคุยกับดิฉันเขาไม่ได้อยู่ในที่ทำงาน) เขาเล่าว่าอดีตสามีดิฉันมาขึ้นศาลและนัดต่อไปจะเป็นการสืบพยานจำเลยหมายถึงพี่สาวกับพึ่ชายของดิฉันที่ทั้งสองคนมีชื่อในโฉนดที่ดินร่วมกับดิฉัน(ที่ดินเป็นมรดกที่ได้รับจากคุณพ่อของดิฉัน) ดิฉันบอกว่าไม่เข้าใจที่ทนายพูดให้ส่งรายละเอียดมาให้ดิฉันดูก็แล้วกันแต่ทนายบอกว่ามันเป็นเรื่องของเขาเดี๋ยวเขาจะจัดการเองและเขาไม่มีรายละเอียดมันอยู่ที่ศาล ดิฉันเริ่มรู้สึกเครียดขอวางสายก่อนแล้วจะติดต่อกลับมาใหม่ ดิฉันเริ่มจะระแวงทนายของดิฉันแต่ส่วนลึกดิฉันก็กลัวบาปไม่เขาทำงานตามหน้าที่จริงไม่ได้โกหกอะไร ตอนนี้รู้สึกไม่ดีเลยค่ะนั่งสมาธิก็ไม่ได้ด้วยใจหนึ่งก็ระแวงอีกใจก็สงสาร อยากขอเรียนถามดังนี้น่ะค่ะ
1 การขึ้นศาลทนายต้องมีรายละเอียดที่ดิฉันจะขอดูได้ใช่ไหมค่ะ
2 ดิฉันสามารถเช็คได้ทางใดบ้างว่ามีการขึ้นศาลจริง
3 ค่าใช้จ่ายในการขึ้นศาลต้องจ่ายเลยหรือว่าจ่ายหลังเสร็จสิ้นคดี เพราะไม่เห็นทนายของดิฉันติดต่อขอค่าทนายนัดที่เขาพึ่งขึ้นศาลตามที่เขาบอก แต่ถ้าเขาต้องออกค่าใช้จ่ายก่อนดิฉันยิ่งจะรู้สึกผิดมากกว่าเดิม
4 เรื่องการแบ่งทรัพย์สินที่ออสเตรเลียศาลตัดสินเรียบร้อยแล้ว คดีหย่า สิทธิเลี้ยงดูลูก ทุกอย่างเรียบร้อยตามคำสั่งศาลออสเตรเลียเพียงแต่อดีตสามึของดิฉันยังยื่นคำร้องอุทรเกียวกับเรื่องค่าใช้จ่ายทนายที่ศาลสั่งเขาต้องจ่าย และดิฉันต้องวางเงินเกือบล้านบาทถ้าหากดิฉันต้องการพาลูกมาเที่ยวเมืองไทยจนกว่าลูกดิฉันจะอายุครบ 18 ปี ดิฉันต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตรด้วยเขาหักโดยตรงจากที่ทำงาน (สามีดิฉันไม่ได้ทำงานอะไร) อ.จารย์ว่าสถานะภาพดิฉันตอนนี้ถ้าหากถูกอดีตสามีกลั่นแกล้งแจ้งความเท็จที่เมืองไทยอีกซึ่งดิฉันก็ไม่แน่ใจว่าจะเจอเรื่องอะไรอีกเพราะเขาเป็นคนหัวหมอมาก ดิฉันคงต้องยอมเปลี่ยนสัญชาติเป็นชาวออสเตรเลีย และย้ายชื่อออกจากสำเนาทะเบียนบ้านที่เมืองไทย อาจารย์คิดว่าจะเป็นทางที่พอจะป้องกันเพื่อไม่ให้เขาหาเรื่องฟ้องร้องได้ไหมค่ะ
ด้วยความเคารพ
ศรีวิไล |