คุณพ่อและคุณแม่ มีบุตรด้วยกัน 9 คน 4 คนแรกเป็นหญิง 4 คนถัดมาเป็นชาย และปิดท้ายด้วยหญิง คุณพ่อต่อสู้ดิ้นรนเลี้ยงลูกทั้งหมดด้วยการทำนาทำไร่ แต่เนื่องจากลูกคนโตเป็นผู้หญิง จึงไม่สามารถช่วยผ่อนแรงคุณพ่อได้อย่างเต็มที่และเมื่อประมาณ 20 กว่าปีก่อนในหมู่บ้านมี ธกส. ให้บริการโดยการกู้เงินแต่ต้องมีการบุคคลค้ำประกันกลุ่ม ในกลุ่มของคุณพ่อมี้ด้วยกัน 3 คน หลังจากกู้เงินมาแล้วก็ได้ผ่อนส่งตามที่ระบุไว้ในสัญญา เมื่อเวลาผ่านไปการผ่อนชำระยังไม่หมด แต่คนในกลุ่มต้องการกู้เงินเพิ่ม โดยจะต้องปิดเงินกู้เก่าเสียก่อนจึงจะกู้ได้ ซึ่งคุณพ่อก็ไม่มีเงินไปปิด คนในกลุ่มก็กู้ไม่ได้และแนะนำให้คุณพ่อเอาที่นาไปขายฝากกับนายทุนเป็นเวลา 1 ปี โดยวางแผนไว้ว่า เมื่อเอาเงินมาปิดหนี้ ธกส.แล้วจะทำการกู้ใหม่ และเอาเงินที่ได้จากการกู้ใหม่นี้มาปิดหนี้ที่เอาที่นาไปขายฝาก แต่เมื่อได้เงินมาปิดหนี้แล้ว คนในกลุ่มของคุณพ่อกลับไม่ยอมให้คุณพ่อกู้ร่วม หรือค้ำประกันให้ (ไม่แน่ใจว่าเป็นแผนของนายทุนหรือเปล่าเพราะคนที่ค้ำประกันให้คุณพ่อสนิทกับนายทุน และเป็นคนแนะนำให้คุณพ่อเอาที่นาไปขายฝาก) คุณพ่อจึงไม่มีเงินไปไถ่ถอนที่นา แต่คุณพ่อก็ทำกันในที่นามาตลอด ก่อนครบเวลา 1 ปี คุณพ่อก็ไปเจรจาขอผ่อนผันนายทุน โดยมีข้อแม้ว่า ให้คุณพ่อทำนาหรือทำกันและเมื่อขายผลผลิตได้ต้องแบ่งคนละครึ่ง ทำอย่างนี้มา 3 ปี พอปีที่ 4 นายทุนมาแจ้งบอกว่าไม่ให้พ่อทำกินแล้วจะเอาไปทำเอง คุณพ่อก็เสียใจที่ไม่รู้จะหากินที่ไหนและจะหารายได้มาเลียงลูกทั้ง 9 คนอย่างไร เสียใจ กลัดกลุ้ม และป่วยเส้นเลือดในสมองแตกและเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังจากทำศพพ่อเรียบร้อยแล้ว นายทุนก็นำเอกสารไปขอออกโฉนด จากที่ดินที่คุณพ่อเอาไปขายฝากมี 1 ไร่ แต่พอทำโฉนดกลับมีที่ดิน 6 ไร่ และเมื่อไปยื่นขอแบ่งที่ดินออกขายกลับมีเนื้อที่ 7 ไร่ บรรดาญาติพี่น้องพยายามดิ้นรนสอบถามผู้รู้และทนายว่าสามารถดำเนินการได้อย่างไรบ้าง ได้รับคำตอบว่าพอมีทางแต่ต้องจ่ายเงินก่อน 30,000 บาท โดยไม่รับประกันว่าจะสำเร็จหรือไม่ ซึ่งเงิน 30,000 เมื่อหลายปีก่อนไม่ใช่น้อย ๆ จึงไม่มีเงินให้ทนาย และก็ไม่ได้ดำเนินการอย่างไร ในลักษณะนี้พอมีทางใดที่จะทำการสอบหาที่มาที่ไปของการได้มาของที่ดินแปลงนี้กับนายทุนว่า มีความถูกต้องอย่างไร และส่วนที่เกินไปจะเอาคืนมาได้หรือไม่ (ดูจากตัวอย่างที่ดินของวัดสวนแก้ว ที่มีการต่อสู้จนพระพยามต้องเสียเงินเปล่า) และท่านพอจะแนะนำทนายที่มีความถนัดทางด้านนี้หรือไม่ครับ
เมื่อขายฝากจนตกเป็นกรรมสิทธิของเขาแล้ว คงไม่มีทางที่จะไปเอาคืนได้หรอก ถึงแม้ที่ดินจะมีจำนวนมากกว่าที่เข้าใจกัน เพราะเป็นการขายฝากทั้งแปลง มีเท่าไรก็เท่านั้น