ที่ดินครอบครอง
ดิฉันได้ซื้อที่ดินแปลงหนึ่ง เนื้อที่ประมาณ 36 ไร่ โดยสัญญาการซื้อขายที่ดินแปลงนี้เป็นเป็นของสามีซื้อเมื่อวันที่ 20 ก.พ.51 ลักษณะของที่ดิน เดิมเป็นบ่อเพาะเลี้ยงกุ้ง ด้านทิศเหนือของที่ดินปัจจุบันเป็นของนาย ก ปัจจุบันเพาะเลี้งกุ้ง ทิศใต้เป็นของนาย ข ปัจจุบันเพาะเลี้องกุ้งเช่นกัน ที่ดินด้านทิศตะวันตกติดทะเล ทิศเหนือติดทางสาธารณประโยชน์ เอกสารสัญญาในการซื้อขายเป็น สค1 และ นส 3 ก และเอกสาร นส3ก อยู่บริเวณติดทางสาธารณโยชน์มีเนื้อที่ 1 ไร่ 3งานและถัดมาเขียนว่าเป็นที่ครอบครอง ขณะที่ทำสัญญาการซื้อขายผู้ใหญ่บ้านรับรู้และเป็นพยานในการซื้อขายด้วย ซึ่งเมื่อหลังจากซื้อแล้วได้เข้าไปทำประโยน์โดยการเพาะปลูกปาล์มน้ำมันโดยได้จ้างผู้อื่นเข้าไปปลูก และหลังจากนั้นประมาณกลางเดือน พ.ค. 51มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าไปและบอกว่า สามีของดิฉันบุกรุกป่า ดิฉันและสามีบอกว่าขอให้ตรวจสอบที่ดินให้แน่ชัดก่อน มีการนัดวันให้ตรวจสอบเอกสารพร้อมผู้ใหญ่บ้านในวันถัดมาแต่เจ้าหน้าที่ไม่มา หลังจากนั้นประมาณ 2 อาทิตย์จนกระทั่งวันที่ 9 มิ.ย. 51 สามีได้รับแจ้งว่าให้นำเอกสารเข้าตรวจสอบโดยเข้าไปในพื้นที่ เวลา 14. 00 น สามีของข้าพเจ้าอยู่ต่างจังหวัดไม่สามารถเข้าไปได้ก้ได้มอบหมายให้ดิฉันเอาเอกสารเข้าไปแทน และดิฉันพร้อมเพื่อน 1 คนเป็นผู้หญิงเข้าไปในพื้นที่ตามนัดหมายเมื่อเข้าไปถึงเจ้าหน้าที่ได้ให้ดิฉันชี้แนวเขตของที่ดิน ขณะที่นำชี้เจ้าหน้าที่ได้ถ่ายรูปดิฉันเอาไว้ และได้นำแผนที่ทางอากาศ ปี พ.ศ 2515 มาให้ดู ดิฉันดูก็เห็นว่าที่ดินนี้รวมที่ดินข้างเคียงก็อยู่ในเขตป่า และหลังจากนั้นก็บอกว่าที่ดินนี้ไม่ตรงตามเอกสารที่นำมาแสดงพร้อมพวกอีกทั้งหมด 9 คนจะเข้ามาจับกุมดิฉัน และดิฉันกล่าวพวกคุณได้ตรอบสอบเอกสารดีหรือยัง ดิฉันบอกเจ้าหน้าที่ว่าขอไปสอบถามผู้ใหญ่บ้านก่อน ดิฉันก็ได้เดินทางไปบ้านผู้ใหญ่บ้าน แต่ผู้ใหญ่ไม่อยู่ก็ได้รออยู่ประมาณ ครึ่งชั่วโมง ดิฉันบอกเจ้าที่ว่าขอกลับไปทำงานก่อนเพราข้าพเจ้ามีอาชีพรับราชการต้องกลับไปทำงานต่อ แต่เจ้าหน้าป่าไม้ไม่ยินยอม ได้เอารถยนต์มาจอดปิดกั้นรถยนต์ของดิฉันเอาไว้ไม่ยอมให้ดิฉันออกไป จนกระทั่งเวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ก็ได้นำข้าพเจ้าไปสถานีตำรวจ ตอนเดินทางไปเจ้าที่ขึ้นมาบนรถยนต์ของดิฉันจำนวน 2 คน พอไปถึงสถานีตำรวจเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาดิฉันบุกรุกที่ป่าสงวน ดิฉันขอถามว่า
1 ดิฉันสามารถแจ้งความดำเนินคดี กับเจ้าหน้าที่ ในข้อหาจับกุมดิฉันโดยมิชอบด้วยกฏหมาย มีการกักขัง หน่วงเหนี่ยว ยัดเยียดข้อกล่าวหา ได้หรือไม่ เพราะเจ้าหน้าที่เอารูปถ่ายที่ถ่ายในวั้นนั้นไปประกอบสำนวนในการแจ้งข้อหา
2 หากว่าดิฉันสามารถแจ้งข้อหาได้ควรให้ตำรวจดำเนินการหรือดิฉันจะตั้งทนายเข้าฟ้องเอง ทางตำรวจแนะนำว่าการที่เราฟ้องร้องเองจะกระทำได้เร็วกว่า หากว่าตำรวจดำเนินการต้องส่งเรื่องไปทาง ปปช ต้องใช้เวลาเป็นปีกว่าเรื่องจะดำเนินการได้ แต่ดิฉันก็ได้แจ้งความไว้เป็นหลักฐานแล้วเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 51ดิฉันอยากทราบว่าทำอย่างไรจึงจะเป็นประโยชน์ที่สุด
3 หากว่าดิฉันแจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดีด้วยและตั้งทนายฟ้องร้องเองด้วยเป็นการทำซ้ำซ้อนหรือไม่ สามารถทำพร้อมกันทั้ง 2 อย่างได้หรือไม่มีผลอย่างไร
4 ดิฉันต้องการร้องเรียนเรื่องเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจไม่ถูกต้อง เลือกปฏิบัติในกรณี นี้ควรร้องเรียนไปที่ใด
4 ดิฉันมีอาชีพรับราชการถูกดำเนินคดีอาญามีผลต่อการเสียประวัติดิฉันควรทำอย่างไร
5 ตอนทำการซื้อขาย สามีก็ไม่ทราบว่า เอกสาร สค 1 ถูกต้องหรือไม่ เพราะที่ดินนี้ทราบจากผู้ใหญ่บ้านและคนในพื้นที่ว่าเป็นบ่อเพาะเลี้ยงกุ้งเดิมและได้ทิ้งรกร้างมานานประมาณ 10 กว่าปีแล้ว อยากถามว่ามีความผิดหรือไม่หากพิสูจน์แล้วว่าเป็นที่ป่าสงวน หากมีความผิดมีแนวทางในการสู้คดีอย่างไร |