เรียน คุณมีชัย
เรียนถามเรื่องเกี่ยวกับที่ดินมี 2 กรณีค่ะ
กรณีที่ 1 คุณแม่ของดิฉันได้ไถ่ถอนที่ดินที่คุณยายได้จำนองไว้จำนวน 6 ไร่กับเจ้าหนี้ซึ่งใช้เงินเก็บของครอบครัวตั้งแต่ปี 2536 และคุณยายได้ให้โอนเป็นชื่อคุณแม่ตั้งแต่ปี 2536 ค่ะ ต่อมาคุณแม่ได้โอนที่ดินให้ดิฉันเมื่อเดือน กรกฎาคม 2550 ซึ่งดิฉันอายุ 26 ปีค่ะ แล้วในปี 2551 น้าสาวบอกว่าคุณยายต้องการไถ่ที่ดินคืน ถ้าไม่ยอมคุณยายจะฟ้องร้องดิฉัน อยากทราบถ้าฟ้องคุณยายจะชนะไหมค่ะ เพราะคุณแม่จะขอแบ่งที่ดินกับคุณยายโดยแบ่ง คนละ 3 ไร่ ถ้าคุณยายยอมรับสิ่งที่เสนอ
กรณีที่ 2 คุณแม่ได้รับโอนที่ดินจากแม่ของคุณยายก่อนท่านเสียชีวิต จำนวน 15 ไร่ ตั้งแต่ 28 ปีที่ผ่านมา เมื่อปี 2551 คุณยายบอกว่าจะขอที่ดินคืนเพื่อจะนำมาแบ่งให้ลูกอีก 8 คน ซึ่งเคยได้รับที่ดินที่ไม่ใช่จำนวน 15 ไร่ ไปก่อนแล้วแต่ได้ขายทอดตลาดไปแล้ว โดยน้าสาวและคุณยายบอกจะฟ้องร้องต่อศาลเพื่อให้คุณแม่คืนที่ดินให้ อยากทราบว่าการฟ้องร้องคุณแม่ดิฉันจะชนะคดีไหมค่ะ คุณมีชัยเพราะดิฉันสงสารคุณแม่มากท่านโดยตำหนิจากคุณตาและคุณยาย น้าสาว เพราะไม่มีความรู้มากนักจบการศึกษาแค่ ป.4 แต่น้าสาวที่ดำเนินเรื่องให้ยายเป็นข้าราชการและจบปริญญาโท ซึ่งนำเรื่องกฎหมายมาบังคับตลอด ดิฉันและน้องสาวทำงานอยุ่ที่กรุงเทพฯ ส่วนแม่และพ่ออยู่ที่ จ.อุดรธานี ดิฉันจึงช่วยคุณแม่และคุณพ่อไม่ได้มากเท่าที่ควร ได้โทรให้กำลังใจตลอด ท่านกลัวโดนฟ้องและไม่มีค่าใช้จ่ายมากพอที่จะสู้คดี
อีกหนึ่งข้อ ที่ดินทั้งสองมีโฉนดที่ดินถูกต้องแต่ยังไม่มีหลักหมุด หรือหลักโฉนดถ้าดิฉันเข้าใจไม่ผิด ต้องขอโทษถ้าเรียกไม่ถูกต้อง ซึ่งจะมีผลกับการฟ้องร้องหรือการซื้อขายหรือไม่คะ
รบกวนช่วยตอบด้วยนะคะเพราะสงสารคุณแม่และคุณพ่อมาก อยากให้ท่านสบายใจ และดิฉันไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายที่ดินมากนัก
ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ
ศุภวรรณ
เรียน คุณศุภวรรณ
๑. เมื่อยายโอนให้แม่แล้ว ที่ดินนั้นย่อมเป็นของแม่ และเมื่อแม่โอนให้คุณแล้ว ที่ดินนั้นย่อมเป็นของคุณ การจะโอนที่ดินให้ยายหรือไม่จึงเป็นสิทธิของคุณ
๒.ที่ดินที่ได้รับโอนมาจากยายของแม่ ย่อมเป็นของแม่โดยเด็ดขาด จะโอนคืนให้หรือไม่ย่อมเป็นสิทธิของแม่ ส่วนที่ถามว่าจะชนะคดีหรือไม่ ตอบไม่ได้ เพราะการดำเนินคดีย่อมขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่นำสืบกันในศาล