ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    028616 ฟ้องเงินกู้น้อย12 มิถุนายน 2551

    คำถาม
    ฟ้องเงินกู้

    เรียนท่านอาจารย์มีชัยที่เคารพอย่างสูง

    รบกวนท่านอาจารย์สักนิดนะครับ  เมื่อปี 2546 มีเพื่อนบ้านมากู้เงินกับผม เป็นเงินจำนวน 120000 บาท ซึ่งทำสัญญากันไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งไม่ได้ระบุดอกเบี้ยและไม่ได้กำหนดระยะเวลาการชำระหนี้ไว้ในสัญญา โดยทางลูกหนี้ได้นำโฉนดที่ดินมาค้ำประกันสัญญา  แต่ตกลงกันด้วยคำพูดว่าลูกหนี้จะยอมเสียดอกเบี้ย ร้อยละ5ต่อเดือนและจ่ายดอกทุกเดือน ต่อมา1-3เดือนแรกลูกหนี้จ่ายดอกเบี้ยให้ตามสัญญาที่ตกลงกันไว้ แต่หลังจากนั้นลูกหนี้ไม่ยอมจ่ายดอกเบี้ยและไม่มีท่าทีที่จะชำระหนี้ทั้งในส่วนของเงินต้นและดอกเบี้ยเลย

    ต่อมาเมื่อปี 2549 ทางลูกหนี้ได้แจ้งต่อคณะกรรมการแก้ไขหนี้เงินกู้นอกระบบและทางคณะกรรมการแก้ไขหนี้เงินกู้นอกระบบได้ให้ผมและลูกหนี้ทำสัญญาประนอมหนี้โดยให้ลูกหนี้ชำระหนี้ซึ่งรวมเงินดอกและดอกเบี้ยที่พึงจะได้รับเป็นเงิน 150000 บาทซึ่งผมก็ยินยอมและลูกหนี้ก็ยินยอมกันทั้งสองฝ่ายและทำสัญญาประนอมตามที่คณะกรรมการแก้ไขหนี้เงินกู้นอกระบบระบุ

    แต่หลังจากนั้นก็เหมือนเดิมลูกหนี้ก็เงียบไม่ยอมใช้หนี้ทั้งในส่วนของดอกเบี้ยและเงินต้นเหมือนเดิม

    ต่อมาเมื่อปี2550 ทางลูกหนี้มาขอโฉนดที่ดินที่นำมาค้ำประกันสัญญาคืน เพื่อนำโฉนดแบ่งมรดกกับญาติๆ ซึ่งทางเราก็เห็นใจก็ให้ยืมโฉนดไป โดยทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรว่าเมื่อแบ่งมรดกเสร็จแล้วลูกหนี้จะนำเอาโฉนดส่วนที่เป็นของลูกหนี้มาให้ทางเราเหมือนเดิมหรือถ้าไม่นำโฉนดมาให้ก็ต้องน้ำเงินมาใช้หนี้ในจำนวน150000ตามสัญญาประนอมหนี้เมื่อปี2549 สัญญาระบุให้นำโฉนดมาคืนหรือใช้หนี้เป็นเงินตามที่ระบุภายในวันที่ 31 มีนาคม 2551

    แต่แล้วก็เหมือนเดิมเมื่อลูกหนี้จัดการแบ่งมรดกเสร็จแล้วลูกหนี้ก็ไม่มีท่าทีที่จะนำทั้งโฉนดที่ดินหรือเงินมาใช้หนี้

    ต่อมาได้มีการทวงถามหนี้ ลูกหนี้ขอใช้หนี้70000บาทก่อนส่วนที่เหลือจะค่อยทลอยให้ซึ่งผมคิดว่าถ้าใช้70000บาทก่อนส่วนที่เหลือก็คงไม่ได้เพราะดูแล้วลูกหนี้ไม่มีความจริงใจที่ใจใช้หนี้เลย แต่ว่าผมก็ใจดีอีกนั่นแหละเลยตกลงกันใหม่ว่าขอทั้งหมดเลยแล้วกันโดยทางผมลดหนี้ให้30000บาท จาก150000บาท เหลือ120000บาทเท่ากับเงินต้นที่ยืมไปเมื่อปี2546และทำสัญญาเงินกู้กันใหม่เป็นให้ใช้หนี้120000บาท

    และล่าสุดที่น่าเจ็บใจอย่างยิ่ง ลูกหนี้นำโฉนดที่ดินดังกล่าวไปกู้เงินจาก ธกส. ได้เงินมา160000บาท แต่เอามาใช้หนี้ผม 70000 ซึ่งไม่ได้ปฏิบัติตามสัญญาที่ให้ไว้เลย แล้วบอกว่าส่วนที่เหลือจะทยอยให้ทุกปี ซึ่งผมก็รับเงินมาก่อน (ผมค่อนข้างไม่มั่นใจแล้วว่าเงินส่วนที่เหลือผมจะได้รับคืนหรือป่าวเพราะขนาดมีเงินแล้วลูกหนี้ยังไม่ชดใช้หนี้ให้หมดทีเดียว)

    ผมเลยตกลงกับทางลูกหนี้ว่าส่วนที่เหลือใช้ให้หมดภายในสิ้นปีนี้แล้วกัน(2551)

    แต่ลูกหนี้ไม่ยอม บอกแต่ว่าจะชดใช้ปีละหมื่นสองหมื่น ซึ่งเป็นคำพูดที่ไม่น่าเชื่อถือเลย ดังนั้นผมเลยบอกยืนยันคำเดิมว่าก่อนสิ้นปีให้นำเงินมาใช้หนี้ให้หมดไม่งั้นผมจะฟ้องศาล แต่ลูกหนี้ไม่ได้มีท่าทีกลัวที่จะขึ้นศาลเลยแถมยังท้าให้ไปฟ้องศาลอีก ซึ่งปฎิกิริยาของลูกหนี้แข็งกร้าวมากประมาณว่าฟ้องศาลแล้วแล้วทำไมถ้าไม่มีเงินใช้หนี้แล้วศาลจะทำไม ซึ่งทำให้ผมรู้สึกเจ็บใจจิ๊ดมากๆ

    ที่กล่าวมาทั้งหมดผมใจดีเกินไปจนเป็นคนโง่มากๆ มีโฉนดค้ำประกันก็ให้เค้าไปคืนด้วยความเชื่อใจ หนี้ก็ลดให้เอาแต่ทุน เงินทุน120000บาท 6ปี ดอกเบี้ยก็ไม่คิด ทุนก็ยังไม่ได้เลยผมมันช่างโง่จริงๆ

    ขอสอบถามอาจารย์มีชัย นะครับว่ากรณีอย่างนี้ถ้าผมจะฟ้องลูกหนี้และคิดดอกเบี้ยทั้งหมดตามกฎหมายจะได้ไหมครับ  มันจะขัดกับสัญญาฉบับล่าสุดหรือไม่ซึ่งตกลงกันว่าจะไม่คิดดอกเบี้ยถ้านำเงินต้นมาคืนทั้งหมด แต่ลูกหนี้เองก็ไม่ได้ปฎิบัติตามสัญญาเลย

    และถ้าฟ้องศาลแล้วลูกหนี้บอกไม่มีเงินที่จะใช้หนี้ ถ้าศาลให้ประนอมหนี้โดยผ่อนจ่ายเป็นเดือนแต่ถ้าลูกหนี้ไม่ยอมจ่ายตามที่ศาลระบุในสัญญาประนอมหนี้(ซึ่งท่าทางจะเป็นอย่างนั้น)ผมจะสามารถยึดที่ดินที่เคยนำมาค้ำประกันสัญญาไว้ตั้งแต่ตอนแรกได้ไหม แต่ตอนนี้โฉนดดังกล่าวลูกหนี้นำไปกู้เงินกับ ธกส แล้ว

    ขอบคุณครับ

    คำตอบ

    เมื่อไม่ได้ระบุดอกเบี้ยไว้ในสัญญา เวลาฟ้องศาลก็คงเรียกได้ไม่เกินร้อยละ ๗ ครึ่ง ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป การที่เขาไม่กลัวการฟ้องศาลก็อาจเป็นได้ว่าเขาเห็นแล้วว่าเงินเหลือไม่มากเท่าไร หากคุณไปฟ้องศาล ค่าใช้จ่ายก็อาจพอ ๆ กับเงินที่จะเรียกคืนได้  อย่างไรก็ตามในกรณีที่คุณฟ้องและชนะคดี หากเขาไม่ชำระคุณก็มีสิทธิไปยึดทรัพย์สินเขามาขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ได้


    มีชัย ฤชุพันธุ์
    12 มิถุนายน 2551