กราบเรียนท่านมีชัย ฤชุพันธ์
ในขณะที่สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดยังมิได้คัดเลือกสมาชิกสภาเพื่อเป็นคณะกรรมการข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด กระผมมีความคิดเห็นว่าคณะกรรมการข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดนั้นยังไม่มีความครบถ้วนสมบูรณ์ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้ จึงไม่สามารถมีมติใดๆได้ ตามความเห็นของกฤษฎีกาในกรณีเทียบเคียง (ตามที่ยกย่อมาแนบท้าย)ใช่หรือไม่ครับ
กราบขอบพระคุณครับ
พระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่นพ.ศ. ๒๕๔๒
หมวด ๑
การบริหารงานบุคคลในองค์การบริหารส่วนจังหวัด
มาตรา ๕ ในองค์การบริหารส่วนจังหวัดแต่ละแห่ง ให้มีคณะกรรมการข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดคณะหนึ่ง ประกอบด้วย
(๑) ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน
(๒) หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดจำนวนสามคนจากส่วนราชการในจังหวัดนั้น ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศกำหนดว่าเป็นส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ในกรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการบริหารงานบุคคล ผู้ว่าราชการจังหวัดจะประกาศเปลี่ยนแปลงการกำหนดส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเมื่อใดก็ได้
(๓) ผู้แทนองค์การบริหารส่วนจังหวัดจำนวนสี่คน ประกอบด้วย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดซึ่งสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดคัดเลือกจำนวนหนึ่งคน ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด และผู้แทนข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดซึ่งคัดเลือกกันเองจำนวนหนึ่งคน
(๔) ผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนสี่คน ซึ่งคัดเลือกจากบุคคลซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านการบริหารงานท้องถิ่น ด้านการบริหารงานบุคคล ด้านระบบราชการ ด้านการบริหารและการจัดการหรือด้านอื่นที่จะเป็นประโยชน์แก่การบริหารงานบุคคลขององค์การบริหารส่วนจังหวัด
ความเห็นกฤษฏีกา(เทียบเคียง)
เลขเสร็จ 160/2542
ผู้ทำ กรรมการร่างกฎหมาย คณะที่ 7
เรื่อง หารือข้อกฎหมายการดำเนินการตามพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527
หัวข้อกฎหมาย : พระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527
ประเด็น
[1] การที่กรรมการผู้แทนฝ่ายโรงงานได้ขอลาออกจากการเป็นกรรมการแล้วแต่หากกรรมการที่เหลืออยู่เข้าประชุมเกินกว่ากึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมด โดยไม่มีผู้แทนฝ่ายโรงงานเข้าประชุม การประชุมดังกล่าว จะถือว่าครบองค์ประชุมและสามารถมีมติในเรื่องต่าง ๆ ได้หรือไม่
คณะกรรมการกฤษฎีกา (กรรมการร่างกฎหมาย คณะที่ ๗) เห็นว่า พระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. ๒๕๒๗ กำหนดองค์ประกอบของคณะกรรมการต่างๆ[๑] โดยแบ่งตัวแทนฝ่ายต่างๆ ออกเป็นสามกลุ่ม คือ ตัวแทนฝ่ายราชการ ตัวแทนโรงงาน และตัวแทนชาวไร่อ้อย เพื่อให้คณะกรรมการต่างๆ นั้นมีตัวแทนจากฝ่ายต่างๆ ที่ครบถ้วนในการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด การพิจารณาองค์ประกอบของคณะกรรมการต่างๆ ว่าสมบูรณ์ครบถ้วนที่จะประชุมพิจารณาเรื่องใดได้ จึงต้องพิจารณาเป็นสองขั้นตอน คือ ในเบื้องต้นจะต้องมีความสมบูรณ์ครบถ้วนตามองค์ประกอบที่กฎหมายกำหนดเสียก่อน กล่าวคือ มีกรรมการตัวแทนภาครัฐ ผู้แทนชาวไร่อ้อย และผู้แทนโรงงาน ครบถ้วนตามจำนวนที่กฎหมายกำหนด เมื่อมีกรรมการฝ่ายต่างๆ ครบถ้วนเพื่อเป็นตัวแทนในการเสนอความเห็นและร่วมพิจารณาแล้ว จึงถือว่าองค์ประกอบคณะกรรมการสมบูรณ์ หลังจากนั้นจึงพิจารณาองค์ประชุมของคณะกรรมการเป็นลำดับถัดไป การที่ตัวแทนของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพ้นจากตำแหน่งทั้งหมดในคณะกรรมการคณะใดคณะหนึ่งต้องถือว่าองค์ประกอบของคณะกรรมการนั้นๆ ไม่ครบถ้วน ดังนั้น กรรมการที่เหลืออยู่จึงไม่อาจปฏิบัติหน้าที่เป็นคณะกรรมการได้ แม้ว่าจำนวนกรรมการที่เหลืออยู่มีเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดในคณะกรรมการนั้นๆ ก็ตาม ซึ่งเรื่องลักษณะทำนองเดียวกันนี้ คณะกรรมการกฤษฎีกา (กรรมการร่างกฎหมาย คณะที่ ๕) ได้เคยให้ความเห็นไว้ในเรื่ององค์ประกอบของคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๔ ว่า คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินจะเป็นคณะกรรมการสมบูรณ์ได้ต่อเมื่อมีประธานกรรมการและกรรมการอื่นครบถ้วนตามมาตรา ๑๕ ดังกล่าวแล้ว หากขาดผู้ดำรงตำแหน่งหนึ่งตำแหน่งใดโดยไม่มีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนได้ตามกฎหมายแล้ว บุคคลที่เหลืออยู่ย่อมไม่ถือว่าเป็นคณะกรรมการที่สมบูรณ์อันจะทำให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้[๒]
ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น การที่ผู้แทนโรงงานลาออกจากการเป็นกรรมการในคณะกรรมการต่างๆ ทั้งหมด ต้องถือว่าองค์ประกอบของคณะกรรมการนั้น ๆไม่ครบถ้วน กรรมการที่เหลืออยู่ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่เป็นคณะกรรมการได้ ดังนั้น แม้ว่ากรรมการที่เหลืออยู่ที่เข้าร่วมประชุมจะมีจำนวนเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดก็ตาม ที่ประชุมของคณะกรรมการนั้นๆ ย่อมไม่สามารถมีมติในเรื่องต่างๆ ได้
ถ้าเป็นกรณีที่ยังไม่ได้มีการเลือกสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเลย องค์ประกอบของ คณะกรรมการข้าราชการองค์การบริหารราชการส่วนจังหวัดก็ยังไม่ครบ