ความคิดเสรีของมีชัย
เรียนรู้กฏหมายใกล้ตัว
เรื่องสั้น
จดหมายถึงนาย
 
  • นายช่าง อบต กำหนดให้ใช้วิศวกรระดับเกินกว่าที่สภาวิศวกรกำหนด
  •  
  • การยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน
  •  
  • ค่าส่วนกลาง
  •  
  • ผู้ขออนุญาตปลูกสร้างเป็นเจ้าของอาคารแต่ผู้เดียวจริงหรือไม่
  •  
  • ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภครับคำขออนุญาตฎีกาอีกครั้งได้หรือไม่
  • อ่านทั้งหมด
    มุมของมีชัย ถาม-ตอบ กับมีชัย
     
         ถาม-ตอบ กับมีชัย จะเป็นกุญแจ ไขข้อข้องใจของทุกๆท่าน ในเรื่องกฎหมายและการเมือง โดยท่านอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้นของคุณให้หมดไป เมื่อคุณส่งคำถามเข้ามาที่นี่ ส่งคำถาม
    คำสำคัญ
    ค้นหาใน
     
    เลือกประเภทคำถาม-ตอบ > การเมือง | กฏหมาย | เศรษฐกิจ | ทั่วไป | มรดก | แรงงาน | ท้องถิ่น | มหาวิทยาลัย | ราชการ | ครอบครัว | ล้มละลาย | ที่ดิน | ค้ำประกัน | 22128 ค้ำ | archanwell.org | ล้างมลทิน | 24687 | hhhhhhhhhhh | คำถามทั้งหมด ... อ่านสักนิดก่อนตั้งคำถาม

    ปิดหน้าต่างนี้
    คำถามที่ หัวข้อคำถามโดยวันที่
    028333 ร้อนใจ ทุกข์ใจมากๆค่ะอมรา หมื่นวรากุล29 พฤษภาคม 2551

    คำถาม
    ร้อนใจ ทุกข์ใจมากๆค่ะ
    สวัสดีค่ะอาจารย์ ขอคำปรึกษาหน่อยน่ะค่ะ  เพื่อนหนูมาขอยืมเงินจากหนู ห้าหมื่นบาท บอกว่าจะเอาไปใช้หนี้ที่มีอยู่ แล้วเขาถึงจะกู้ได้เพิ่มอีก หนูเลยสงสารเพื่อนเลยเอาเงินเก็บที่หนูมีอยู่ให้เพื่อนไปห้าหมื่นบาท เพื่อนหนูบอกว่าถ้ากู้ได้แล้วจะใช้หนูคืนทันที แต่ตอนที่หนูให้เพื่อนยืมเงินไปไม่ได้มีหลักฐานสัญญาอะไร ผ่านไปเกือบจะแปดเดือนแล้วหนูก้ไม่ได้เงินคืนสักที แล้วหนูก็ติดต่อเพื่อนไม่ได้เลย รู้แต่บ้านเขาไปหาพ่อแม่เขาก็บอกว่าไปทำงานที่ต่างจังหวัดแล้ว เขาไม่ติดต่อกลับมาเลย แล้วหนูต้องทำไงบ้างค่ะ มีธุระต้องใชเงินด้วย หนูจะสามารถเอาผิดแจ้งความเอาเงินคืนได้ไหมค่ะ ทั้งๆที่หนูก้ลืมทำสัญญาเห็นว่าเป็นเพื่อนรักกัน แต่หนุ รู้ชื่อจริง นามสกุลจริงเขา รุ้จักบ้านเขา หนุจะไปแจ้งความเอาผิดเขาได้ไหมค่ะ แล้วต้องทำไงบ้างค่ะ สุดท้ายนี้ขอขอบพระคุณอาจารย์มากๆน่ะค่ะ หนุรอฟังคำตอบน่ะค่ะ
    คำตอบ
    เมื่อจะให้เงินเขายืมนั้นก็เพราะมีเมตตาสงสารอยากจะช่วยเขา เมื่อช่วยไปแล้ว ก็ควรต้องทำใจยึดเอาความสุขตอนช่วยเขาไว้เพียงเท่านั้น  ส่วนเงินที่จะได้คืนนั้น ก็ถือเสียว่าเมื่อไรเราโชคดีก็คงได้คืนเหมือนถูกหวย  ที่ต้องปลอบใจเช่นนี้ก็เพราะการกู้ยืมเงินเกิน ๕๐ บาทนั้น ถ้าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อของผู้กู้ยืมเป็นสำคัญ ก็ฟ้องร้องบังคับกันไม่ได้  นอกจากนั้นถึงแม้จะมีหลักฐานเป็นหนังสือที่พอจะฟ้องร้องกันได้ แต่ค่าฟ้องร้องก็อาจเกินห้าหมื่นบาท หรือใกล้ ๆ ห้าหมื่นบาท และเมื่อฟ้องชนะคดีแล้ว ก็ไม่แน่ว่าจะได้เงิน เพราะถ้าเขาไม่มีทรัพย์สินอะไรให้ยึดมาขายทอดตลาด ก็ได้แต่นั่งรอไปเท่านั้น  จำไว้ว่าการกู้ยืมเงินไม่ใช่เป็นเรื่องทางอาญาที่จะไปแจ้งความให้ตำรวจจับใครได้
    มีชัย ฤชุพันธุ์
    29 พฤษภาคม 2551