share idea
ดิฉันเข้ามาใน website ของคุณมีชัย และได้อ่านเรื่องจดหมายถึงนาย ทำให้อยากให้ข้อมูลเสริมความจริงที่ได้ประสบมา และกำลังประสบอยู่
ดิฉันเห็นด้วยที่ว่าสังคมถึงจุดเสื่อมอาจจะยังไม่สุดด้วยซ้ำ รอบๆตัวดิฉันถูกจิกตอดคดโกงอยู่บ่อยๆ ยิ่งนับวันยิ่งมากขึ้น เรื่อยๆ สิ่งนี้มันเป็นผลมาจากวัฒนธรรมคอรัปชั่นที่หยั่งรากลึกมานาน ดิฉันเพิ่งอ่านเจอคนหนึ่งเขียนใน blog ภาษาอังกฤษ ว่าเขาเจอมันทุกหนแห่งในเมืองไทย แม้แต่คนกวาดถนน ไม่ผิดเลยค่ะ กริยาขู่กรรโชกหลอกลวก ฉ้อฉนเป็นผลจากการที่คนระดับผู้นำทำแล้วไม่มีใครจัดการ สำคัญมากนะคะ เพราะผู้นำคือคนกำหนดวัฒนธรรมองค์กร ซึ่งมันเปลี่ยนยาก และยิ่งเราปล่อยเวลาไว้อย่างนี้ ไม่ทำอะไรเพื่อชี้ชัดว่าต้องเปลี่ยนจากตอนนี้ ปัญหายังอีก 10 ปีหรือมากกว่านั้น ดิฉันทำงานกับเสือตัว(เกือบ)สุดท้ายเมื่อตอน IMF ก่อนที่แกจะลาออก เรากึ่งพนันกัน 2 เรื่อง เรื่องหนึ่งคือ ค่าเงินจะไม่มีวันเห็นต่ำกว่า 46 บาท/$ แต่ดิฉันบอกวันนั้นว่า 35 บาท$ อีกเรื่องคือ นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา แกว่าคนจะไม่นับถือกันเรื่องความดีหรือความสามารถอีกต่อไป แต่คนมีเงินมากเท่านั้นที่จะถูกเสมอ ดิฉันไม่เชื่อว่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะถ้าเชื่อดิฉันคงตัดสินใจไปเรียนต่อต่างประเทศตั้งแต่ตอนนั้น แต่เห็นการเปลี่ยนแปลงมากทุกหย่อมหญ้าจริงๆ ดิฉันคิดว่าทุกอย่างจะจบหลังจากการเลือกตั้ง แต่มันทำท่าจะแย่ลง ประเด็นเรื่องคนไม่พัฒนาเป็นประเด็นที่สนับสนุนตรงนี้ และดิฉันเห็นด้วยที่สุด เพราะเทียบกัน 2 เรื่องที่กล่าวมาแล้วทรัพยากรมนุษย์พัฒนาน้อยมา เมื่อเทียบกับทรัพยากรอื่นๆ เราจะใช้กฎหมายจัดการผู้นำทุจริต เลือกคนดีและเก่งเข้ามาทำงานจะแก้ปัญหาระยะสั้นได้ และจำเป็นมาก แต่ถ้าจะพัฒนาอย่างจริงจังจริงๆก็ต้องใช้เวลาอีกประมาณนั้น ตอนนี้ดิฉันตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะไปเรียนต่อระดับ PhD ต่างประเทศ และจะปลดแอกตัวเองเสียที ดิฉันเถือว่าได้ทำหน้าที่คนไทยต่อแผ่นดินมากเกินพอแล้ว แต่เมื่อเวลามีปัญหากลับถูกปฏิบัติจากข้าราชการอย่างต่ำทรามตั้งแต่ตำรวจ และข้าราชการผู้ใหญ่ แม้แต่ระดับล่างก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน ดิฉันไม่เหลือเงินที่จะให้ใต้โต๊ะตำรวจ ไม่เหลือสำหรับจ่ายค่าทนาย เพราะทำเรื่องโง่ๆ ที่คนอื่นเขาไม่ทำกัน คือไม่ร่วมทุจริตตลกไหวคะ ใครๆเข้าก็รับได้ทั้งนั้น
เมื่อปลายปี 2004 ดิฉันเขียน Mega-project เสนอรมต. คนหนึ่ง 90 MB. ถูกเรียกปะเข้าไปอีก 30 MB. ต้องต่อรองกับทั้ง lobbyist และ nominee สิงคโปร์ตอนช่วงก่อนที่ศัพท์นี้จะระบาด ดิฉันบอกตรงๆว่า มันเลวร้ายไม่ใช่แค่จิตสำนึกของความเป็นคนไทยเท่านั้น แต่มันเป็นวิธีการบริหารงานที่พัฒนาลงสู่จุดเสื่อมทรามที่สุด การที่ดิฉันไม่ยอมทำต่อ แม้ขอลาออก จริงๆก็เซ็นสัญญา ทำ project ต่อได้ และจะได้ commission มากพอ วันนี้ดิฉันคงไม่ต้องมานั่งหลังแข็งเขียน proposal ขอทุน มีเงินยัดใต้โต๊ะตำรวจ จะไม่มีเสียงเห่าหอน จะพบแต่กลีบกุหลาบและการกราบไหว้ตลอดทางเดิน ไม่ได้ประชดนะคะ นี่คือความจริงที่อยากจะบอกให้ทราบว่า supper crisis แล้ว และเมื่อดิฉันมีการกระทุ้งไปกับผู้ใหญ่ ก็พบความจริงอย่างที่คุณทราบคือ คนส่วนใหญ่ในปรเทศนี้ไม่มีปัญญา ยิ่งทำมาก ก็สร้างปัญหามากขึ้น ไม่สามารถทำให้ achieve ได้ สุดท้ายก็แค่ปัดให้พ้นตัว ดิฉันอาจจะกลับมาอีกหลังจากเรียนจบไม่ว่าจะขอทุนเรียนได้หรือไม่ก็ตาม แต่ดิฉันคงไม่ขอยึดติดอะไรที่นี่อีกแล้ว การทำอะไรสวนกระแสคน 10 ปีข้างหน้า ไม่ใช่สถานะที่ดิฉันควรกระทำ ขณะที่คนที่ควรทำกลับยังไม่ทำ และส่วนใหญ่เป็นฝ่ายช่วยกันกิน และส่งเสริมการกินเงินบ้านเมือง คนที่มีเงินมาก ดูชีวิตเขาลำบากจริงๆนะคะ ชีวิตต้องอยู่รอดได้โดยการกินสมบัติของแผ่นดิน
ดิฉันไม่เคยมีเรื่องที่จะต้องเข้าโรงพักให้ตำรวจดำเนินการใดๆ ให้ และไม่คิดว่า เมื่อเดือดร้อน แล้ว เขามีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธหน้าที่ที่จะต้องกระทำด้วย ที่แย่กว่านั้น ยังแสดงกริยากระแทกกระทั้นใ ห้ดิฉัน เขียนรายการบัญชีทรัพย์สินเอง ดิฉันคิดว่าถ้าเขาลำบากนัก เอาปืนเอาอำนาจหน้าที่ที่มอบให้คืนดิฉันมา และแลกกระโปรงกับชุดตำรวจ ดิฉันจะจัดการงานทุกอย่างเอง ไม่ต้องเสียเงินภาษีจ้างเขา ขณะเดียวกัน ถ้าทำงานได้แค่เขียนใบบันทึกรายการ ทำไมไม่จ้างเสมียน, ลูกจ้างชั่วคราว เงินเดือนถูกกว่า ไม่เปลืองภาษีของรัฐ แถมไม่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลอย่างดี แบบเบิกได้ทุกอย่างทั้งครอบครัว เพื่อให้เขามีคุณภาพชีวิตที่ดี และพร้อมที่จะ (ละเลยที่จะไม่ปฏิบัติหน้าที่, กรรโชก หรือทำร้ายประชาชน) ทำงานเพื่อประชาชน เรื่องนี้ ดิฉันทราบดีว่าตำรวจต้องการใต้โต๊ะ กรรโชกทรัพย์บนหน้าที่ของตัวเอง ร้ายกว่าพวกที่ดิฉันไปแจ้งความอีก ดิฉันไม่ยอมยัดใต้โต๊ะแน่ๆ พวกเราส่วนใหญ่มีส่วนสนับสนุน ทำให้สังคมเสื่อมทรามทั้งสิ้นที่ทำอย่างนี้ เห็นไหมคะว่า ดิฉันจะอยู่ในสังคมนี้ได้อย่างไร
คนไทยชอบอ้างเรื่องงานเยอะ ไม่มีเวลา แต่จริงๆ แล้ว ไม่มีความสามารถพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงาน และบริหารจัดการ รากลึกมาจากความโง่ ไม่ใช่การศึกษานะคะ ก็เลยเลือกที่จะปัดงานออกไป หรือความชั่ว ที่จะคิดหาวิธีสร้างเป็นประโยชน์ของตัวเอง บนหน้าที่ข้าราชการของประชาชน (เฉพาะสโลแกน) ในฐานะที่ทั้งเรียนและทำงานบริหารมากว่า 10 ปี และยิ่งเวลาทำงานกับต่างชาติ ไม่เคยรู้สึกจริงๆ กับที่เขาว่าประเทศไทยไม่เจริญ เพราะมีคนไทย (แบบนี้ 80%) ไม่มีความรับผิดชอบที่แก้ไข และยังแสดงอำนาจความยิ่งใหญ่โดยการแตะถ่วงต่อไป แทนที่จะโชว์ที่ผลงานการแก้ปัญหา ข้าราชการไทยส่วนใหญ่เป็นต้นทุนของประเทศที่ด้อยประสิทธิภาพ เราจ่ายสูงเกินกว่าประสิทธิผลที่ได้ ลองเดินไปดู data entry ของส่วนจัดหางาน นนทบุรีนะคะ เขาใช้จอแบน ขณะที่คนตกงานเพียบ ในขณะที่เอกชนเขาใช้กับเฉพาะ manager ที่มี productivity มากกว่าเดือนละ 10 ล้าน ตอนดิฉันไปรายงานตัวรับเงินประกันสังคมชดเชยตกงานกับท่านผู้นี้ เธอก็พูดกระแทกว่าไปทำอะไรผิดมาหล่ะซิ ถึงต้องออกจากงาน ดิฉันคงผิดที่เกิดผิดประเทศมากกว่า แถมอีกเดือนยังแสดงอำนาจว่า ระบบ internet กำลังล่ม และดิฉันอาจไม่ได้เงินคืน ถ้าเป็นเอกชนต้นทุน แบบ cheap productivity จะต้องเอาออกก่อนนะ และนี่เป็นเงินตัดออกจากการทำงานของดิฉันทั้งหมด จริงๆถ้าการจัดการมีประสิทธิภาพเรา key ข้อมุลเราเองที่บ้านได้ เงินจ่ายทั้งหมด 1,500 x12 ไปให้รพ.ไม่ถึง 2,000 บาท ที่เหลือใช้เงินกันยังไง มันถึงไม่พัฒนา ดิฉันจะไม่ยอมเสียภาษี แม้แต่บาทเดียวให้รัฐอีกต่อไปแน่ๆ
ในวงการธุรกิจไทยก็ยังทำธุรกิจแบบโกงๆ ไม่ได้ใช้สมองจริงๆ หรอกค่ะ ลองตัวตัวเลข micro ก็ได้ ถ้าให้บรรยาย ต้องเขียนหนังสือได้อีกเล่ม คิดจะเขียนจริงๆค่ะ แต่ขอออกไปอยู่นอกประเทศก่อน ที่นี่ไม่ปลอดภัยคงไม่ต้องเรียกว่าบ้านเกิดอีกต่อไป ดิฉันเขียนวิทยานิพนธ์เรื่องการพัฒนาคนค่ะ แต่จริงๆ แล้ว มีคนจริงๆ อยู่แค่ 20% ที่เหลือต้องพัฒนาให้เป็นคนก่อน ให้รู้จักหน้าที่ความรับผิดชอบก่อน หน้าที่เป็นจิตสำนึกพื้นฐานที่มนุษย์ธรรมดาพึงกระทำ ถ้าไม่รู้แม้แต่หน้าที่จะเรียกอะไรดี ข้าราชการไม่มีจิตสำนึกในหน้าที่ และคนไทยไม่รู้จักแม้แต่คำว่าสิทธิ ดิฉันไม่ได้คิดมากไปหรอกนะ คงดีกว่าไม่มีสมองไว้คิดเลย แล้วก็ ด้อยพัฒนา forever
ดิฉันฝากจัดการอะไรเร็วๆกับเรื่องที่ขึ้นหน้า 1 ที่ท่านอาจมีส่วนผลักดันได้ ไอ้เรื่องไปกระโดดถีบกันที่สภาน่ะค่ะ แล้วไปโอบไหล่กัน มันสื่อการสร้างวัฒนธรรมที่เลวลงไปอีกนะคะ คนไทยชอบคิดสั้นๆ แบบนี้ต้องรีบจัดการ เหมือนที่ดิฉันถูกกระทำ เวลาถูกหมากัด ทุกคนวิ่งไปลูบหัวหมา แล้วเอามันไปแอบไว้ เวลาเทศกิจจะมาจับไป มันส่อเผ่าพัน และบอกว่าฉันเลือก(หรือเป็น)หมาไม่ใช่คน |