เรียนท่าน อ.มีชัย ที่นับถือ ผมตรวจสอบทุกเวปแล้วไม่มีใครเหมือนผมเลย(แค่คล้ายแต่ไม่เหมือน) ขอรบกวน อาจารย์ เป็นที่พึ่งครับ เริ่มเลยนะครับ ผมซื้อที่ดินจากธนาคารซึ่งธนาคารซื้อจากการขายทอดตลาดมาก่อน เพราะว่าเจ้าของที่ดินเดิมเอาจำนองธนาคารแล้วถูกธนาคารยึดขายทอดตลาดแต่ไม่ได้ราคาตามที่ธนาคารต้องการธนาคารเลยซื้อไว้เพื่อมาขายเอง ต่อมาผมก็ซื้อต่อธนาคารในราคาที่แพงมาก(แพงสำหรับผมนะครับ เพราะไม่ได้ร่ำรวยอะไรครับ)
ที่ดินแปลงนี้มีที่งอก แต่กรมเจ้าท่ายังยืนยันว่าเป็นที่ริมตลิ่ง(ทั้งที่ฤดูฝนธรรมดาน้ำจะท่วมไม่ถึง นอกจากเกิดอุทกภัยเท่านั้น 10ปี มีครั้ง) ปัญหามีอยู่ว่าเมื่อครั้งที่เจ้าของเดิมมมีสิทธิ์ในโฉนดอยู่นั้น พ่อของเจ้าของที่ดินเดิมได้เข้าไปปลูกพืชสวนครัวที่ริมตลิ่งนี้ติดต่อกันมาเกิน 20 ปีแล้วและต่อมาก็ยกที่ริมตลิ่งนี้ให้กับลูกชายปลูกต่อ(ในช่วงที่ธนาคารกำลังดำเนินการยึด)ซึ่งเป็นพี่ชายของเจ้าของโฉนดเดิมนั่นเอง(เจ้าของโฉนดที่ดินเดิมนี้ มีฐานะเป็นน้องสาวและมีสิทธิ์ในโฉนดที่ดินคนเดียวเท่านั้น และบ้านที่ธนาคารยึดนี้ก็ปลูกคร่อมระหว่างที่งอกกับที่มีโฉนดด้วย และไม่ได้ตกลงอะไรพิเศษกับธนาคารให้ทราบด้วย) ต่อมาเมื่อรู้ว่าธนาคารจะยึดบ้านและที่ดิน ในช่วงที่ธนาคารกำลังดำเนินการอยู่นั้น(ประมาณ 2 ปี) พี่ชายของเขาก็ได้เข้าไปล้อมรั้วไม่ไผ่ในที่งอกริมตลิ่งที่เหลืออยู่ไว้ โดยกะว่าจะให้ธนาคารยึดได้เฉพาะที่มีโฉนดและที่งอกที่ตัวบ้านปลูกคร่อมอยู่เท่านั้น(โดยจงใจกันที่งอกส่วนที่เหลือออกมาไม่ให้ธนาคารยึดไปด้วย) ต่อมาผมก็ได้ซื้อที่ดิน (โฉนด) แปลงนี้ไว้เรียบร้อย ก็เข้าใจว่าที่งอก หรือ ที่ริมตลิ่งนี้ผมควรมีสิทธิ์เหนือกว่าเจ้าของเดิม หลังจากที่ซื้อได้ 5 วัน ผมก็เห็นว่าที่งอกนั้นเป็นป่ารกร้าง จึงเข้าไปปรับปรุงและตัดต้นไม้ยืนต้นบางต้นด้วย โดยไม่มีเจตนาจะทำลายของๆใครและไม่มีใครมาทักท้วงใดๆทั้งสิ้น สองเดือนต่อมาพี่ชายของเขาก็ได้ฟ้องคดีเสียทรัพย์ต่อผมว่าผมไปตัดต้นไม้ของเขาและยังมีท่าทีจะฟ้องเอาสิทธิ์ทำกิน(ไม่ใช่สิทธิครอบครองนะครับ)ในที่ริมตลิ่งนั้นต่อไปด้วย (ฟ้องแพ่ง) โดยผมได้ของเจรจายอมจ่าย แค่ค่าต้นไม้แล้ว แต่แกก็ไม่ยอม เพราะแกจะฟ้องเอาสิทธิทำกินในที่ริมตลิ่งต่อไปโดยไม่ให้ผมไปยุ่งเกี่ยว
ขณะนี้คดี(เสียทรัพย์)กำลังไปถึงอัยการเพื่อไกล่เกลี่ย แต่แกบอกว่าไม่ไกล่เกลี่ยใดๆทั้งสิ้น โดยเรียกร้องค่าต้นไม้อายุ 2 ปียังเล็กอยู่ 3 ต้น ตั้ง 4 หมื่นบาทครับ พร้อมกับจะฟ้องแพ่งเอาสิทธิ์ในการปลูกต่อด้วย
ขอถามอาจารย์ดังนี้ครับ
1. ผมไปตัดต้นไม้แบบนี้ผิดไหมครับ ไม่เคยเห็นเขาปลูกมาก่อน เห็นเป็นป่ารก(ช่วงระหว่างธนาคารยึด2ปีไม่มีใครเข้าไปทำอะไรในที่งอกนี้ด้วยแต่เขาล้อมรั้วทิ้งไว้2ปี) คิดว่าผมมีสิทธิ์ จึงอยากจะเข้าไปปรับปรุงก็เท่านั้น ไม่มีเจตนาทำลายของๆใคร2. เขาจะฟ้องของสิทธิในการใช้ที่ริมตลิ่งนี้และล้อมรั้วต่อไปได้หรือไม่(รั้วเดิมผมพังลงแล้วเพราะมันผุมาก) และผมมีสิทธิ์ฟ้องขับไล่เขาได้ไหมครับ โดยเขาก็อ้างสิทธิ์ทำมาก่อนนะครับ และมีพยานด้วย3. ในเมื่อกรมเจ้าท่ายืนยันว่าไม่ใช่ที่งอก แล้วถ้าเป็นที่ริมตลิ่งผมจะใช้สิทธิ์ที่ริมตลิ่งนี้ได้ประมาณไหน ล้อมรั้วเล็กๆได้มั้ยครับ4. บางคนก็บอกว่าเขาครอบครอง"ที่ดินมือเปล่า"มาก่อนเขาต้องมีสิทธิ์กว่าเรา คำว่า"ที่ดินมือเปล่า"จะเอามาใช้กับ"ที่ริมตลิ่ง"ได้ด้วยหรือครับ5. ถ้าฝ่ายเขาจะฟ้องเอาสิทธิการใช้ประโยชน์(ไม่ใช่สิทธิ์ครอบครองนะครับ)แล้วชนะ ถ้าในอนาคตต่อมา หลวงประกาศให้เป็นที่งอกขึ้นมาเมื่อไหร่แล้วผมจะใช้สิทธิ์ในมาตรา 1308 ได้ยังไงล่ะครับ มันไม่ยุ่งกันใหญ่หรือครับ6. ตามความคิดของท่านอาจารย์ผมควรทำอย่างไรต่อดีครับ ช่วยชี้แนะด้วยครับ ทุกวันนี้เครียจมากจนไม่สบายแล้ว กู้เงินเขามาซื้อก็แพงเพราะจะไปอยู่อาศัยเอง ก่อนนี้ก็เช่าบ้านเขาอยู่ ถ้าไม่ได้ที่งอกก็ไม่มีบริเวณให้ตากผ้า จอดรถ เพราะที่ในโฉนดมีเนื้อที่นิดเดียวเอง
1. ถ้าคุณเข้าใจโดยสุจริตว่าที่ดินนั้นเป็นที่งอกริมตลื่งและเป็นสิทธิของคุณโดยสุจริต คุณก็อาจไม่มีความผิดในทางอาญา
2. ที่งอกริมตลิ่งของที่ดินแปลงใด ย่อมเป็นของเจ้าของที่ดินแปลงนั้น การครอบครองปรปักษ์ที่เขาทำมา อาจใช้อ้างกับคุณไม่ได้ (ควรปรึกษากับทนายความในเรื่องนี้)
3. ถ้าเกิดข้อสงสัยว่าเป็นที่งอกริมตลิ่งหรือไม่ คุณก็อาจต้องดำเนินการทางศาล เพื่อให้ศาลเป็นผู้วินิจฉัย ส่วนจะเริ่มต้นคดีอย่างไรนั้น ทนายความคงบอกได้
4. ไม่ได้
5. คุณจึงสมควรดำเนินการเสียเอง
6. ปรึกษาทนายความ