ถูกยื่นฟ้องคดีอาญา ศาลยังไม่ประทับฟ้องแต่ถูกสั่งให้รอเลื่อนขั้นเงินเดือน
ข้าพเจ้าเป็นครูสอนวิชาคณิตศาสตร์มา 25ปีในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง ปรากฏว่ามีนักเรียนหญิง ม.6 คนหนึ่งสอบวิชาคณิตศาสตร์ในภาคเรียนที่ 2 ไม่ผ่านได้ผลการเรียนเป็น 0 โรงเรียนเปิดโอกาสให้สอบซ่อมตามระเบียบของโรงเรียน ก็ยังสอบไม่ผ่าน นักเรียนจึงไม่จบหลักสูตร ม.6 ตามระเบียบของโรงเรียนนักเรียนต้องมาลงทะเบียนเรียนซ้ำเฉพาะวิชาที่สอบไม่ผ่านในภาคเรียนถัดไป นักเรียนมาขอดูคะแนนสอบข้าพเจ้าก็ได้แสดงคะแนนให้ดูทั้งหมด แต่นักเรียนไม่ยอมรับโดยคิดไปเองว่าครูแกล้ง จึงแต่งตั้งให้ทนายยื่นฟ้องข้าพเจ้าต่อศาลจังหวัดระยองในข้อหาเป็นข้าราชการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบใช้อำนาจหน้าที่กลั่นแกล้ง (นักเรียนอายุ 20 ปีแล้ว) ศาลได้ลงรับเป็นคดีดำ ในวันที่ 2 เมษายน 2551 หลังจากนั้นทนายรีบนำสำเนาหนังสือคำฟ้องมายื่นร้องต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ในวันที่ 2 หรือวันที่ 3 เมษายน2551ซึ่งไม่ทราบวันที่แน่ชัด สาเหตุที่เร่งรีบนำเรื่องมายื่นร้องเรียนต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา น่าจะมีสาเหตุมาจาก ในวันที่ 3 เมษายน 2551 จะมีการเสนออนุมัติขั้นเงินเดือนของข้าราชการครูโดยคณะกรรมการ อ.ก.ค.ศ. (ซึ่งน่าแปลกใจมากว่าทนายรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร) กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยเรื่องการเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการครู พ.ศ.2550 ข้อ 13 สรุปว่า ในการเลื่อนขั้นเงินเดือนแต่ละครั้ง ถ้าผู้มีอำนาจสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนเห็นควรให้ครูได้เลื่อนขั้น แต่ถ้าปรากฏว่าถูกฟ้องคดีอาญาในความผิดที่เกี่ยวกับการปฎิบัติหน้าที่ราชการ.... และศาลได้ประทับฟ้องคดีนั้นแล้วก่อนมีคำสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือน ให้ผู้มีอำนาจสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนรอการเลื่อนขั้นเงินเดือนไว้ก่อน ต่อมาเขตพื้นที่มีหนังสือลับให้โรงเรียนตั้งกรรมการสอบสวนข้าพเจ้า และแจ้งว่าศาลได้ประทับฟ้องข้าพเจ้าแล้ว และตามกฏข้อ 13 ให้รอการเลื่อนขั้นเงินเดือน (แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่าจาก จ.18 ข้าพเจ้าได้ขั้นเงินเดือนเพิ่มครึ่งขั้น ตามปกติ) เมื่อโรงเรียนตั้งกรรมการสอบสวนแล้วพบว่าคดีไม่มีมูลจึงส่งเรื่องกลับไปยังสำนักงานเขตพื้นที่ ต่อมาโรงเรียนได้ตั้งเบิกเงินข้าพเจ้าตาม จ.18 แต่เจ้าหน้าที่การเงินสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแจ้งว่าเงินเดือนข้าพเจ้าให้รอการเลื่อนขั้นเงินเดือนไว้ก่อน โดยให้เบิกตามอัตราเดิม
วันที่ 23 เมษายน 2551 มีจดหมายลงทะเบียนแจ้งจากศาลโดยแนบคำฟ้องของนักเรียน หนังสือแจ้งนัดวันไกล่เกลี่ยวันที่ 13 พฤษภาคม 2551 และวันนัดไตร่สวนเป็นวันที่ 16 มิถุนายน 2551
ข้าพเจ้าได้ถามผู้รู้หลายท่าน รวมทั้งจากเวปไซด์ที่มีหัวข้อกฏหมายหลายๆเวปไซด์ ทุกท่านและทุกที่ต่างบอกว่า คดีของข้าพเจ้าศาลยังไม่ได้ประทับฟ้องคดี การที่ทนายไปยื่นฟ้องต่อศาลวันที่ 2 เมษายน แล้วนำมายื่นร้องต่อเขตพื้นที่การศึกษา แล้วเขตพื้นที่การศึกษานำมาเป็นข้ออ้างว่าศาลประทับฟ้องข้าพเจ้าก่อนวันมีคำสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือน(3 เมษายน2551) และเขตพื้นที่การศึกษาสั่งการรอเลื่อนขั้นเงินเดือนจากข้ออ้างดังกล่าว ข้าพเจ้าเชื่อว่าเขตพื้นที่การศึกษาดำเนินกับข้าพเจ้าไม่ถูกต้อง
วันที่28 เมษายน ข้าพเจ้าได้ทำหนังสือขอทราบเหตุผลในการสั่งรอการเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าพเจ้า และพยายามชี้แจงว่าเขตพื้นที่การศึกษาน่าจะปฎิบัติกับข้าพเจ้าไม่ถูกต้อง โดยได้แนบเอกสารที่ได้จากเวปไซด์ต่างๆเพื่อแสดงให้เห็นว่าศาลยังมิได้ประทับฟ้องคดีกับข้าพเจ้า แต่ผู้มีอำนาจเชื่อนิติกรของสำนักงานเขตพื้นที่มากกว่า โดยอ้างว่าสำนักงานเขตพื้นที่(น่าจะหมายถึงนิติกรของสำนักงาน)มีความเห็นตามที่ได้กระทำไป และถามข้าพเจ้าว่าที่ข้าพเจ้าพูดอธิบายมาไปถามใครมา เอาข้อความมาจากไหน (ท่านไม่เชื่อที่ข้าพเจ้าพูด)
ข้าพเจ้าไม่วิตกกังวลเรื่องเงินเดือนไม่ขึ้นเพราะถูกรอการเลื่อนขั้นเงินเดือนถ้าคำสั่งหรือการปฎิบัติเป็นไปตามกฏระเบียบหรือกฏหมาย แต่วิตกกังวลว่าเพียงแค่ตีความหมายที่เห็นชัดเจนง่ายๆยังไม่สามารถมองเห็นได้ตรงกัน แล้วจะไปพึ่งพาอะไรได้กับคนของรัฐด้วยกันเองถ้าเป็นคดีอื่นๆที่ยุ่งยากซับซ้อน
ข้าพจ้ามองไม่เห็นใครอีกแล้วในเมืองไทยที่จะช่วยเป็นผู้ตัดสินการตีความระหว่างนักกฏหมายของเขตพื้นที่การศึกษากับข้าราชการตัวน้อยๆคนเดียวอย่างข้าพเจ้าว่าใครคิดถูกใครคิดผิด ข้าพเจ้าเห็นก็เพียงท่านมีชัยนี่แหละที่พอจะเป็นทางสว่างในเรื่องนี้ และข้าพเจ้าจะน้อมรับคำชี้ขาดของท่านไม่ว่าข้าพเจ้าจะคิดถูกหรือผิดก็ตาม และถ้าข้าพจ้าคิดถูก ข้าพเจ้าขออนุญาตนำบทความของท่านไปเรียนให้ข้าราชการชั้นผุ้ใหญ่ได้ทราบผล ไม่ทราบว่าจะขัดข้องหรือไม่
คำถามของข้าพเจ้าคือ เขตพื้นที่การศึกษารอการเลือนขั้นเงินเดือนข้าพเจ้าเพราะศาลประทับฟ้องคดีของข้าพเจ้า เขตพื้นที่การศึกษาปฎิบัติถูกต้องแล้วใช่หรือไม่ ถ้าไม่ใช่ กรูณาบอกเหตุผล
กรณีถ้าท่านมีชัย แจ้งว่าเขตพื้นที่ทำไม่ถูก ข้าพเจ้าจะขออนุญาตนำคำชี้แนะของท่านนำไปแจ้งให้เขตพื้นที่ทราบเพื่อเป็นข้ออ้างอิงจะได้หรือไม่
กรณีถ้าเขตพื้นที่ไม่ยอมรับตามข้อเสนอแนะที่ท่านได้ชี้แนะ ข้าพเจ้าควรจะปฎิบัติอย่างไรเพื่อร้องขอความเป็นธรรม
ด้วยความเคารพอย่างสูงและขอขอบพระคุณในความกรุณามา ณ โอกาสนี้
ครูน้อย |