บิดาได้ขายที่ดินของตัวเอง วันที่5พ.ย 2550 กับนาย ก. ที่ดิน5ไร่ จำนวนเงิน 300.000บาท แต่ราคาประเมิน 420.000บาท นาย ก.ขอต่อรอง 300.000โอนกันที่กรมดิน เราเสียค่าโอนค่าภาษีเองทั้งหมด 28.000บาท นายก.ไม่ยอมจ่ายแต่พอวันที่ 15 ก.พ 2551 นาย ก.มาหาพ่อที่บ้านเพื่อตกลงให้คืนเงิน แต่ทางเราไม่ยอมนายก.จึงแจ้งตำรวจ ตั้งข้อหาว่าพ่อฉ้อโกงหลอกหลวงแต่พ่อไม่ได้เซ็นและไม่ยอมรับ วันที่22ก.พ51 นาย ก.พาตำรวจ มาบ้านป้าและมาเอาโฉนดป้าไปและมีการถ่ายรูปป้าชี้ที่ และแจ้งข้อหาพ่อใหม่ชี้ที่ผิดหลอกหลวงว่าพาไปดูที่ป้าแต่เอาโฉนดตัวเองขาย วันที่ขายพ่อไปคนเดียว นายก.มีพยาน4คน แต่ที่ดินป้ามี6ไร่ และอยู่ห่างกับพ่อ700ม. และ29มี.ค51มีหมายตำรวจเรียกพ่อและป้ามาสอบสวน แต่เราไปวันที่31มี.ค51และพาทนายไปด้วย พ่อให้การปฎิเสธ แต่เรามีเอกสารทุกอย่างถูกต้องโฉนดจริงอยู่กับนาย ก.แล้ว ตอนนี้ก็รอว่านาย ก.ว่าจะทำอย่างไร เพราะตำรวจไม่ได้ฟังทางเราเลยมีแต่แจ้งข้อกล่าวหา 1. ที่ตำรวจตั้งข้อหาว่าเจตนาหลอกหลวงนั้นถือว่าเป็นคดีอาญาหรือ คดีเเพ่งเพราะที่ดิน เราซื้อขายถูกต้องทุกอย่าง
2 .ถ้าตำรวจทำสำนวนเสร็จแล้วนาย ก.สามารถฟ้องศาลได้หรือไม่ และต้องรอหมายศาล อีกกี่เดือน
3.นาย ก.กับทางเราไม่ได้รู้จักกันแต่มีคนกลางแนะนำให้และมีการซื้อขายเกิดขึ้น เจตนาแบบนี้ถือว่าเป็นแก็ง ต้มตุ๋นหรือไม่
4. การซื้อขายที่ดินบิดาขายที่ของตัวเอง แต่นาย ก. กับเอาที่ดินของป้ามารวมเป็นเรื่องเดียวกันอย่างนี้ถือว่านาย ก.หลอกห ลวงหรือไม่
5. บิดาสามารถฟ้องร้อง นาย ก.ได้หรือไม่เพราะเราเสียชื่อเสียง และตลอดเวลานาย ก.ก็จะหาเรื่องทำให้เรารำคาญเพื่อจะให้เรายอมและคืนเงิน