ขอคำปรึกษากรณีตรวจเลือดผิดค่ะ
เนื่องจากดิฉันทำประกันชีวิตในวงเงิน 1 ล้านบาท แล้วไปตรวจสุขภาพเพื่อขอใบรับรองแพทย์ที่คลีนิคแห่งหนึ่งในเวลาประมาณ 12.00 น. ในการตรวจนั้นดิฉันไม่ทราบมาก่อนว่าจะมีการตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อ HIV จนกระทั้งหมอตรวจเสร็จดิฉันถึงทราบตอนหลัง เพราะคุณหมอไม่ได้แนะนำอะไรก่อนตรวจ เพียงแต่ให้เซ็นต์ชื่อ พนักงานบอกเพียงว่าให้เซ็นต์ ชื่อยินยอมการตรวจ ดิฉันไม่ทราบจริงๆ เพราะพนักงานไม่ได้แจ้ง แล้วดิฉันก็ไม่เคยตรวจเลือดหาเชื้อ HIV โดยเจาะเลือดแค่ 2-3 หยด เคยตรวจตอนตั้งครรภ์ก็เจาะเลือดไปเยอะเป็นหลอดใหญ่ๆ หลายหลอด และใช้เวลาเป็นอาทิตย์กว่าจะแจ้งผล พอคุณหมอบอกครั้งแรกว่า แนะนำให้ไปตรวจซ้ำที่รพ. ดิฉันก็ยังงง ๆ คิดว่าตัวเองเป็นเบาหวานด้วยซ้ำ จึงถามคุณหมออีกครั้งว่าหมายความว่าอย่างไร คุณหมอจึงบอกว่า ผลการตรวจพบเชื้อ HIV แนะนำให้ไปตรวจซ้ำที่รพ.
ดิฉันรู้สึกช๊อค พูดออกมาคำเดียวว่า เป็นไปไม่ได้ พยาบาลจึงพูดว่า เครื่องอาจจะ error ก็ได้ แต่คุณหมอก็ไม่ได้สนใจ เพราะตอนนั้นคลีนิคจะปิดทำการแล้ว เป็นเวลา 13.30 น. คุณหมอปิดไฟ ปิดประตู 2 ด้าน เหลือไว้แค่ประตูทางออกด้านเดียว ดิฉันแทบจะก้าวขาไม่ออก ตัวชา สมองคิดอะไรไม่ออก ขับรถไปวนเวียนรอบรพ. 2 รอบกับตัวแทนประกัน จึงตัดสินใจกลับบ้านแล้วมาบอกกับสามี สามีก็ยังรู้สึกช๊อค ดิฉันปรึกษากับสามี สามีจึงให้ไปตรวจที่รพ.อีกครั้ง ( รพ.รัฐบาล ) แต่โรงพยาบาลไม่สามารถแจ้งผลได้ เพราะเป็นวันศุกร์ต้องรอเป็นวันจันทร์จึงจะทราบผล ประกอบกับเป็นเวลาที่ใกล้จะปิดทำการของรพ.แล้วด้วย ดิฉันจึงกลับมาบ้านอีกครั้ง สามีจึงให้ไปตรวจที่รพ.เอกชน ดิฉันจึงไปตรวจที่รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ก่อนตรวจดิฉันสอบถามว่า "การตรวจนี้ใช้เวลาในการตรวจนานเท่าไหร่ และต้องใช้วิธีการตรวจอย่างไรจึงจะทราบผลได้อย่างแน่นอน" ซึ่งคุณหมอได้ให้คำตอบว่า " ใช้การตรวจหาเชื้ออย่างละเอียดในห้องLABใช้เวลาอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมง ผลการตรวจค่อนข้างแน่นอน" ดิฉันจึงตัดสินใจตรวจและระหว่างนั่งรอผล ดิฉันอดคิดไปต่างๆ นา ๆ ไม่ได้ ชีวิตของลูกตัวน้อยๆ อีก 3 คนจะเป็นอย่างไร กิจการการค้าจะทำอย่างไร ชีวิตจะดำเนินต่อไปอย่างไร นั่งรอผลการตรวจถึง 18.00 น. จึงทราบผลการตรวจว่า เลือดของดิฉันไม่มีเชื้อ HIV ดิฉันรู้สึกสบายใจขึ้น จึงกลับมาบ้านเพื่อบอกสามีและแจ้งตัวแทนของบ.ประกันชีวิตทราบ แล้วนำผลการตรวจของรพ.เอกชนไปให้คุณหมอที่คลินิก เพื่อทำการเปลี่ยนผลการตรวจเลือดที่คุณหมอระบุไว้ในใบรับรองผลการตรวจสุขภาพ ว่าพบเชื้อ HIV และลงบันทึกไว้ในระเบียนคนไข้ใหม่ แต่คุณหมอก็ไม่ยอมเปลี่ยนให้ เนื่องจากไม่เชื่อผลการตรวจจากรพ.เอกชน พร้อมทั้งยังแนะนำว่า ให้ไปตรวจกับรพ.รัฐบาลอีกครั้ง
ดิฉันชี้แจงให้คุณหมอฟังทุกอย่าง เช่นตอนนี้ดิฉันเป็นแม่ลูกอ่อน ลูกกินนมแม่ น้ำหนักตัวลดลงยาก ขนาดลดอาหาร นอนดึกตื่นเช้า สุขภาพดิฉันดี ไม่เคยเจ็บป่วย แล้วเครื่องมือตรวจของทาง ร.พ.เอกชน ก็น่าจะแน่นอนกว่าของคุณหมอซึ่งเป็นสติ๊ก แต่คุณหมอก็ยังยืนยันว่าเครื่องมือของคุณหมอเชื่อได้แน่นอนในระดับหนึ่ง มิหนำซ้ำยังไม่ยอมฟังเหตุผลของดิฉันด้วย และพูดทำนองว่า "คุณไปซื้อใบผลตรวจมาเพื่อหวังเงินประกันใช่ไหม" ดิฉันและสามีจึงให้คุณหมอตรวจซ้ำทั้ง 2 คนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งผลการตรวจก็พบเชื้อ HIV ทั้ง 2 คน (แถบสีขึ้น 2 ข้าง) คุณหมอเริ่มไม่แน่ใจกับเครื่องมือของตัวเอง และสังเกตุเห็นว่าแถบสีขึ้นสีไม่เสมอกัน จึงตรวจด้วยน้ำยาสำหรับ Test HIV เปล่า ๆ โดยไม่ใช้เลือด ปรากฏว่าน้ำยาเปล่าก็ยังเป็นแถบสี 2 เส้น สามีดิฉันก็เลยพูดกับคุณหมอว่าแสดงว่าน้ำยาเปล่า ก็ยังมีเชื้อ HIV คุณหมอจึงขอโทษ แล้วจึงยอมเปลี่ยนในใบรับรองผลการตรวจสุขภาพให้ ตัวแทนประกันฉีกใบผลการตรวจสุขภาพอันเก่าแล้วใส่กระเป๋าไว้ หลังจากกลับมาบ้านคืนนั้นดิฉันกับสามีก็เลยปรึกษากันทั้งคืนเพราะนอนไม่หลับ ว่าลองดูซิว่าคุณหมอเขียนอะไรลงไปในซองตรวจเก่าบ้าง ตอนเช้าจึงขอใบตรวจสุขภาพอันเก่ากับตัวแทนประกัน เปิดดู จึงรู้ว่าคุณหมอลงในช่องผลตรวจเลือดเป็น บวก ในใบตรวจนั้นสลักหลังว่า ต้องตรวจแบบห้องปฏิบัติการเท่านั้น และต้องให้คำแนะนำกับคนไข้ก่อนตรวจถึงผลกระทบต่อการตรวจนั้น
ดิฉันคิดว่าคุณหมอตรวจและแจ้งผลต่อดิฉันอย่างไม่ถูกต้อง และชัดเจนเท่าที่ควร อีกทั้งไม่ดูแลรักษาเครื่องมือให้พร้อมใช้อยู่เสมอ ทำให้ผลการตรวจผิดพลาด ขนาดดิฉันไม่ได้อยู่ในภาวะเสี่ยง แต่มาตรวจหาเชื้อ HIV เพราะมีความจำเป็น จากการทำประกัน ดิฉันยังช๊อคไป ขนาดเชื่อมั่นว่าตัวเองไม่เป็นแน่เพราะลูกกินนมอยู่ดิฉันยังวิตกกังวลได้เพียงนี้ แล้วคนอื่นก่อนหน้าดิฉันที่ต้องมาตรวจเพราะมีความเสี่ยงล่ะค่ะ เขาจะเป็นอย่างไร อาจจะคิดสั้นถึงขนาดฆ่าตัวตายเลยก็ได้...
ดิฉันเรียนถามอาจารย์เป็นข้อๆ ดังนี้นะค่ะ
1. เราสามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากผลการตรวจเลือดผิดนี้ได้อย่างไรบ้างค่ะ เพราะว่าดิฉันมีอาชีพค้าขาย ซึ่งสร้างความเสียหายทางชื่อเสียงให้กับบริษัท และกิจการของดิฉันมาก และดิฉันกับสามีเกือบจะต้องผิดใจกัน ครอบครัวของดิฉันเกือบจะต้องแตกแยก คิดเลิกกิจการการค้า และตัวดิฉันเองก็เกือบจะคิดสั้น ตลอดทั้งคืนทั้งวันที่ดิฉันกินไม่ได้นอนไม่หลับ จิตใจคิดกังวลแต่เรื่องนี้ และไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเอง อีกทั้งต้องทนความอับอายไปตรวจตามรพ.อีกหลายแห่ง ต้องขาดรายได้เนื่องจากต้องปิดร้าน ตอนนี้บริษัทประกันก็ไม่รับทำประกันชีวิตดิฉันแล้วด้วย
2. การประเมินค่า จากความเสียหายที่ได้รับ นำอะไรมาประเมินได้บ้างค่ะ
3. คุณหมอบอกว่า คุณหมอไม่ผิด จากรายละเอียดที่เล่าให้อ.ฟัง อ.มีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรบ้างค่ะ
4. รบกวนขอคำชี้แนะจากอ.ด้วยค่ะ ไม่ต้องตอบหน้ากระทู้นะค่ะ รบกวนส่งมาที่เมลล์ jirapat_w@hotmail.com
สุดท้ายนี้ขอขอบพระคุณอาจารย์อย่างยิ่งค่ะ ขอให้อาจารย์และครอบครัวมีความสุขและความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไปนะค่ะ
ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ
Jirapat |