เรียน อ.มีชัย
ดิฉันมีเรื่องจะขอคำปรึกษาท่านดังนี้คะ เนื่องจากตอนนี้ดิฉันได้ถูกหมายแจ้งยืดทรัพย์ ซึ่งเมื่ออ่านเนื้อความในจดหมายจึงทราบว่าพี่สาวได้ไปเป็นหนี้เรื่องการซื้อรถยนต์และถูกยึดแต่มิได้จ่ายค่าธรรมเนียมเป็นเงิน 3,020 บาท ตั้งแต่ปี 2547 และขณะนี้เมื่อบริษัทได้ทราบว่าพี่สาวมีทรัพย์สินเป็นที่ดินจึงได้แจ้งยึดทรัพย์และในทรัพย์สินนั้น ดิฉันได้มีกรรมสิทธิ์ร่วมอยู่ด้วย เนื่องจากเป็นที่ดินที่เรา 4 คนพี่น้องใช้เป็นถนนส่วนบุคคลร่วมกัน ในการยึดทรัพย์นี้เขายึดที่ดิน 2 โฉนด ซึ่งเป็นทางเดินต่อกันและของพี่สาวซึ่งเป็นที่ดินส่วนตัวแต่อยู่ตรงกลาง ที่ดินทุกผืนของพี่น้องต้องใช้ถนนนี้เท่านั้น มิฉะนั้นจะไม่มีทางออกเป็นที่ตาบอด และเมื่อได้ไปศึกษาดูโฉนดปรากฎว่า ด้านหลังโฉนด 1 ใบ ได้เขียนว่าผู้โอน ภาระจำยอม ไม่มีค่าตอบแทน และได้เขียนบรรยายว่า ที่ดินแปลงนี้ตกอยู่ในบังคับภารจำยอมทั้งแปลง เรื่อง ทางเดิน ทางรถยนต์ ทางระบายน้ำ ประปา ไฟฟ้า สาธารณูปโภคต่าง ๆ ของโฉนดที่ดินเลขที่ 113056 ตำบลและอำเภอเดียวกันตามบันทึกข้อตกลง ลงวันที่ 17 ตุลาคม 2549 นั้น ซึ่งขณะนี้เขากำลังจะขายทอดตลาด จึงขอเรียนปรึกษาท่านว่าเราควรทำอย่างไร ต้องติดต่อกับใครบ้างและแก้ไขได้ไหม เนื่องจากตอนที่พี่สาวไปทำนิติกรรมกับที่ดินเรา 3 คนไม่ได้ไปด้วย แต่เขามีหนังสือมาให้เราเซ็นยินยอมให้เขาเดินและเอาโฉนดที่ดินส่วนของเขาเข้าจำนองกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ได้ ขอความกรุณาท่านช่วยให้คำปรึกษาด้วย ด่วนมากคะ
เมื่อได้มีการจดทะเบียนภาระจำยอมไว้แล้ว ถึงใครจะซื้อไป ภาระจำยอมนั้นก็ติดไปด้วย อันที่จริงถ้ามีหนีเพียงสามพันกว่าบาท ทำไมไม่ช่วยกันระหว่างพี่น้องนำเงินไปจ่ายเขาเสียแทนที่จะให้เขามายึดทรัพย์ไปขายทอดตลาด