เป็นข้าราชการ ไปปฏิบัติงานนอกสถานที่โดยใช้รถราชการ เมื่อจะกลับเข้าหน่วยงาน พนักงานขับรถไม่รอรับกลับเนื่องจากจะรีบเดินทางกลับต่างจังหวัดทั้งๆ ที่ยังเป็นเวลาราชการ เมื่อไปขอทำใบเบิกค่าพาหนะกลับถูกพนักงานขับรถกล่าวหาว่าเอาเวลาราชการไปเดินจ่ายตลาด ไม่ทำงาน ต่อหน้าบุคคลอื่น เป็นการกลบเกลื่อนความผิดของตนที่ละทิ้งหน้าที่ ในส่วนตนเองหน้าที่การงานไม่เคยบกพร่องงานที่ปฏิบัติก็สำเร็จลุล่วงด้วยดี ไม่มีประวัติเสียหายในการทำงาน จึงแจ้งว่าคำกล่าวนี้ทำให้เสียชื่อเสียงขอให้ถอนคำพูด มิฉะนั้นจะทำเรื่องร้องเรียนผู้บังคับบัญชาโดยตรง แต่ยังไม่สำนึก ท้าทายให้ทำเรื่องร้องเรียนได้เลย จึงอยากเรียนถามว่า การกล่าวร้ายเช่นนี้ถือว่าเป็นการหมิ่นประมาทให้เสียชื่อเสียงได้หรือไม่ และได้สอบถามนิติกรของหน่วยงานว่าจะไปแจ้งความต่อคู่กรณีว่าหมิ่นประมาท ทำให้เราเสียชื่อเสียง เพื่อนำมาประกอบคำร้องเรียน แต่นิติกรกลับให้คำชี้แจงว่า การพูดเพียงเท่านี้ไม่ได้เป็นการหมิ่นประมาท ตำรวจไม่รับแจ้งความหรอก และหากตนเองไปแจ้งความและนำใบแจ้งความมาประกอบคำร้องเรียนจริงก็จะต้องมีการสอบสวนตามระเบียบราชการ ซึ่งในส่วนนี้ดิฉันยินดีที่จะให้มีการดำเนินเรื่องจริงไม่อยากให้เรื่องหายไปกับสายลม เพราะจะทำให้เจ้าหน้าที่ได้ใจ แต่นิติกรกลับแจ้งว่าประวัติของผู้ร้องเรียนก็จะเสียไปด้วยเพราะจะต้องตั้งกรรมการสอบสวน จึงไม่เข้าใจจริงๆ ว่า ทำไม่ถึงกลับตาลปัตรเป็นเช่นนี้ สงสัยจริงๆ ค่ะ ขอคำตอบด้วยว่าเป็นอย่างที่นิติกรให้กล่าวหรือคะ จนทำให้ต้องคิดว่านิติกรกลัวจะต้องทำงานเพิ่มขึ้นหรือเปล่าถึงไม่อยากให้เกิดเป็นคดีความขึ้นมา ขณะนี้ผู้บังคับบัญชาก็ได้รับทราบแล้วในคำร้องเรียน (ยังไม่ได้มีการแจ้งความ) และรับปากว่าจะเรียกคู่กรณีมาสอบถามและจะให้กล่าวขอโทษเราโดยกระจายเสียงตามสายว่ายอมรับผิดตามคำร้องเรียน
จึงอยากเรียนถามท่านว่า
1. การกล่าวร้ายเช่นนี้ต่อหน้าผู้อื่น ไม่เข้าข่ายเป็นการหมิ่นประมาทให้เสียชื่อเสียงหรือคะ ตำรวจจะไม่รับแจ้งความจริงหรือ
2. หรือหากตำรวจรับแจ้งความ ตนเองจะดำเนินคดีโดยไม่เกี่ยวกับทางราชการได้หรือไม่
3. และทำไมประวัติผู้ร้องเรียนจะต้องถูกบันทึกและเสียไปด้วย ในเมื่อเป็นสิ่งที่ถูกต้องและเป็นสิทธิของผู้ร้อง ระเบียบราชการเป็นเช่นนี้จริงๆ หรือคะ
กำลังรอคำตอบท่านคะ เพื่อจะได้เคลียร์ตัวเอง และให้ผู้กล่าวหาสำนึกตนบ้าง
1 คำกล่าวเช่นนั้น ถ้าได้กล่าวต่อหน้าผู้อื่น ก็อาจถือได้ว่าเป็นการหมิ่นประมาทได้ ตำรวจเขาคงรับแจ้งความ
2. เมื่อเขารับแจ้งความแล้วจะให้เขาดำเนินคดีต่อไปหรือจะดำเนินคดีเองก็ได้
3. ก็เป็นแต่เพียงจะมีความทั้งปวงปรากฏในสำนวนการสอบสวน
อนึ่ง การจะดำเนินการทางวินัยกับพนักงานขับรถ ก็อาจทำได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งความตำรวจก่อน