จะติดคุกหรือไม่
กราบเรียนท่านอาจารย์มีชัย ที่เคารพยิ่ง
ผมเป็นญาติกับนาย ก. ซึ่งถูกฟ้องคดีเช็ค ๓ คดีๆ ละใบๆ ละ ๕ หมื่นบาทเศษ ฝ่ายโจทก์ไม่ยอมรวมคดีพิจารณา และศาลท่านก็แยกคดีพิจารณา
ทุกคดีศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกคดีละ ๑ เดือน ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น ในคดีที่ ๑ ส่วนคดีที่ ๒ และ ๓ อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ในคดีที่ ๑ จำเลยให้ทนายความยื่นฎีกา แต่ท่านผู้พิพากษาเจ้าของคดีในชั้นต้นไม่เห็นด้วย ทนายจึงยื่นคำร้องให้ศาลฎีกามีคำสั่งรับคำฟ้องฎีกาของจำเลย และเมื่อไม่นานมานี้ จำเลยได้รับคำสั่งจากศาลให้ไปฟังคำสั่งจากศาลฎีกาว่าจะรับคำร้องเพื่อยื่นฟ้องฎีกาหรือไม่ ในวันที่ ๑ พ.ค.๕๑ คำถามมีดังต่อไปนี้ครับ (บังเอิญมีเหตุเกี่ยวกับหลานชายของผม คือลูกของจำเลย ต้องรายงานตัวเข้ารับราชการหน่วยงานหนึ่งที่สำคัญมาก ในกลางเดือน พ.ค.๕๑ จึงเกิดปัญหา ผมในฐานะเป็นลุงจึงขอพึ่งบารมีของท่านอาจารย์ ในแนวทางที่จะช่วยหลานชายครับ)
๑. หากศาลฎีกายกคำร้อง ในวันที่ ๑ พ.ค.๕๑ จำเลยก็ต้องเข้าไปติดคุกเป็นเวลา ๑ เดือนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ใช่หรือไม่ครับ
๒. หากในวันที่ ๑ พ.ค.๕๑ ญาติจำเลย ที่เป็นนายประกันจำเลย นำเงินสดจำนวน ๕ หมื่นบาทเศษ ตามคำฟ้องในคดีที่ ๑ ไปวางต่อศาลที่ศาลชั้นต้น ก่อนที่ศาลจะอ่านคำสั่งของศาลฎีกา เพื่อยุติเฉพาะคดีที่ ๑ นี้ ศาลจะอนุญาตได้หรือไม่ครับ
๓. หากญาติจะนำเงินไปชำระให้ฝ่ายโจทก์แทนจำเลยตามข้อ ๒ แล้ว ฝ่ายโจทก์ไม่ยินยอม จะมีทางออกอย่างไรบ้างครับ
๔.ขอรับคำแนะนำจากท่านอาจารย์ในทางปฎิบัติ หากเป็นกรณีใดกรณีหนึ่งในข้อที่ ๒ และ ข้อ ๓ ว่าจะมีทางช่วยเหลือจำเลย ได้อย่างไร (เห็นแก่อนาคตของหลานครับ แต่หากตัวจำเลยได้ลงลายมือให้ลูกชายแล้ว จำเลยจะต้องไปติดคุก ถ้าศาลฎีกามีคำสั่งไม่รับคำร้อง ก็ไม่เป็นไรครับ)
กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์เป็นอย่างสูงครับ
|