สวัสดีค่ะอาจารย์ ดิฉันมีปัญหามาปรึกษาค่ะปัจจุบันดิฉันหย่ากับสามีแล้ว มีลูกชายอายุ 12 ปี 1 คน ลูกสาวอายุ 6 ปี 1 คน เมื่อ 3 ปีที่แล้วก่อนที่ปู่ของหลานจะเสียชีวิต ปู่ได้โอนที่ดินพร้อมที่พักอาศัยให้หลานทั้ง 2 คน โดยที่ดินบางส่วนมีบ้านเช่าปลูกอยู่ ซึ่งเป็นรายได้ของปู่ ณ วันที่ทำการโอนที่ดิน ย่า(จดทะเบียนสมรสกับปู่)ได้เซ็นยินยอม และพ่อของเด็กก็เซ็นยินยอมด้วย ส่วนรายได้บ้านเช่า ย่ายังคงเป็นผู้เก็บค่าเช่านั้น เมื่อปลายปีที่แล้วดิฉันได้จดทะเบียนหย่ากับพ่อของเด็ก โดยไม่ได้เรียกร้องทรัพย์สินใดๆในการหย่า ดิฉันเป็นผู้ปกครองเด็ก เด็กยังคงใช้นามสกุลพ่ออยู่ และพ่อต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูเด็ก หลังจากหย่าแล้ว ดิฉันและลูกยังคงอาศัยในบ้านหลังนั้นอยู่ ดิฉันคอยดูแลย่าตามความเหมาะสม ในปัจจุบันดิฉันได้รับรู้มาว่า ทางพ่อเด็กจะทำเรื่องถึงศาล ขอแบ่งสมบัติของเด็กใหม่ ถ้าทางย่าร่วมมือด้วย (ในฐานะภรรยาของปู่) เค้าบอกว่า ชนะแน่นอน ดิฉันได้คุยกับพ่อเด็ก คุยไปคุยมา ทางพ่อเด็กจะขอเป็นผู้ปกครองเด็กแทนแม่ เพราะเค้าเกรงว่า ต่อไปในอนาคต ดิฉันซึ่งเป็นแม่ อาจทำอะไรกับทรัพย์สินของเด็กได้ (ตัวพ่อเด็ก ติดการพนัน เลี้ยงดูผู้หญิงอื่น ไม่เคยรับผิดชอบครอบครัว) และพ่อเด็กยังอ้างเหตุอีกว่า ดิฉันไม่ดูแลแม่ของเค้า (ทั้งๆที่ตัวเค้าเองก็ไม่ได้ดูแลแม่ตัวเอง) ค่าเลี้ยงดูเด็กที่พ่อเด็กเอามาจากย่า ก็ไม่ได้ให้ตามที่ตกลง มีคำถามดังนี้ค่ะ1.ถ้าพ่อเด็กกับย่า จะฟ้องศาลขอแบ่งทรัพย์สินของเด็ก จะทำได้หรือไม่ ด้วยเหตุผลใด2.ถ้าพ่อเด็กดำเนินกิจการต่อจากย่า เมื่อเด็กบรรลุนิติภาวะ เด็กจะสามารถดำเนินการเองได้หรือไม่ และเด็กยังมีกรรมสิทธิ์เหมือนเดิมหรือไม่ (ปัจจุบันแม่และเด็กไปเช่าบ้านอยู่ข้างนอก ในวันหยุดเด็กยังไปเล่นที่บ้านของย่า)3.ในอนาคต ถ้าดิฉันมีสามีใหม่ พ่อเด็กจะเอามาเป็นเหตุฟ้องร้องเป็นผู้ปกครองเด็กได้หรือไม่ (ดิฉันมั่นใจว่า สามัญสำนึกของความเป็นแม่ คงไม่เอาสมบัติของลูกมาขายหรือให้คนอื่น)
ขอบคุณมากๆนะคะ
เรียน anchalee
1 ไม่ได้ เพราะได้ยกให้แล้ว ถ้าเด็กไม่ได้เนรคุณ ก็เอาคืนไม่ได้
2.เมื่อเด็กบรรลุนิติภาวะแล้ว เขาก็มีสิทธิดำเนินการเองทุกประการใครไปยุ่งไม่ได้ กรรมสิทธิเมื่อได้มาแล้ว อายุเท่าไร ๆ ก็ยังเป็นของเขา
3. ก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมว่าอยู่กับใครแล้วเด็กจะมีความสุขและปลอดภัย อนึ่งทรัพย์ของเด็กนั้นแม้จะอยู่ในความดูแลของพ่อหรือแม่ก็ตาม แต่จะไปขายไม่ได้ ถ้าจะขายต้องไปขออนุญาตจากศาลเสียก่อน ซึ่งศาลจะดูว่ามีความจำเป็นอย่างไร โดยปกติศาลไม่ค่อยอนุญาตให้ขาย